วันที่ 26 ก.ค. 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล แนะนายกฯ อย่าฟังแต่คนประจบ พร้อมถามคนติดเชื้อเป็นจำนวนมากจะให้ประชาชนออกมาชมรัฐบาลหรือ โดยระบุว่านายกฯ ไม่ได้มองว่าจะมีใครชม หรือไม่ชมการทำงานของรัฐบาล และนายกฯ พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทุกคนอยู่แล้ว รวมถึง นายวิโรจน์ หรือ พรรคฝ่ายค้านทุกคนด้วย
ขณะเดียวกันการทำงานของนายกฯ ได้ทำงานร่วมกับ รัฐมนตรี ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับหากจะออกมาตรการใดๆเพื่อให้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดคลี่คลายลง นายกฯ จะหารือและรับฟังจากคณะแพทย์ เป็นหลัก
ส่วนที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นนั้น นายกฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขปัญหา ทำงานเชิงรุก เพื่อไม่ให้มีผู้ป่วยหนักต้องอยู่ที่บ้าน หรือมีใครต้องตายคาบ้านอีก ยืนยันไม่มีใครอยากให้มีผู้ป่วยติดเชื้อ หรือเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว ซึ่งนายวิโรจน์ ก็น่าจะเข้าใจสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิดของประเทศ เข้าใจการทำงานของนายกฯ และรัฐบาล รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำงานอย่างหนักในขณะนี้ด้วย ไม่ใช่จะมาแกล้งโง่ ทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร และออกมา กล่าวหาโจมตีนายกฯ กับรัฐบาล ทำลายขวัญกำลังใจของคนทำงาน
นายเสกสกลระบุว่า สถานการณ์ประเทศขณะนี้ ที่ทุกคนร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาอยู่ไม่มีใครมามองว่าใครประจบสอพลอใคร แต่หากจะมีก็คงจะเป็น นายวิโรจน์ และพรรคการเมืองฝ่ายค้านมากกว่า ที่ในหัวสมองมีแต่คิดเรื่องลบ คิดแต่เรื่องผลประโยชน์ส่วนตน ไม่เคยคิดที่จะทำประโยชน์เพื่อใครเลย คอยแต่จะเสี้ยมให้ประชาชนเกลียดชังนายกฯ และรัฐบาล เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ซึ่งหากทำตัวแบบนี้ ตนเองก็ขอเตือนว่า เลือกตั้งครั้งต่อไปอาจจะไม่มีที่ยืนในสภาฯ เช่นเดียวกัน
“ต้องถามกลับไปถึงนายวิโรจน์ว่า ยังมีสติรักและห่วงใยประเทศชาติประชาชนมากน้อยแค่ไหน ยิ่งในยามวิกฤตโควิดประชาชนเจ็บป่วยล้มตายทำไมสมองของนายวิโรจน์ไม่ตระหนักคิดลงพื้นที่ช่วยประชาชน จะเอาแต่ปากมาโจมตีรายวัน ถ้ามีนักการเมืองหรือผู้แทนของประชาชนขาดจิตสำนึกความรับผิดชอบเช่นนี้ ต่อให้ใครมาเป็นนายกฯประเทศไทยก็ไปไม่รอด”
" วันนี้เรามาจับมือกันสู้กับสงครามโควิดดีกว่า มันหนักกว่าสงครามโลกเสียอีก เราคนไทยด้วยกันจะมามัวทะเลาะกันทำไม มาช่วยกันปกป้องดูแลชีวิตพี่น้องคนไทยด้วยกันไม่ให้สูญเสียเพิ่มหรือสูญเสียให้น้อยที่สุดไม่ดีกว่าหรือ"