30 กรกฎาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์พิเศษถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ผ่านการบันทึกเทปเผยแพร่ให้กับผู้สื่อข่าวถึงมาตรการล็อกดาวน์ซึ่งจะครบกำหนดเดิมในวันที่ 2 สิงหาคมนี้แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่ลดลงว่า จะมีแนวทางขยายระยะเวลาการล็อกดาวน์ หรือมีมาตรการเพิ่มขึ้นจากเดิมหรือไม่ว่า
ทั้งหมดต้องปรึกษาทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งมีการประชุมร่วมกันของศบค.ชุดเล็กทุกวันโดยทางกระทรวงสาธารณสุขก็มีคณะทำงานประชุมกันทุกวันเช่นเดียวกัน ก่อนจะเสนอเข้ามายังศบค.ชุดเล็ก
พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การจะอนุมัติอะไรต่าง ๆ ต้องเข้าศบค.ชุดใหญ่เพื่อให้เข้าใจตรงกันทั้งหมดซึ่งจะมีความรวดเร็วไม่ช้าเพราะประชุมกันทุกวัน วันไหนที่มีเรื่องเร่งด่วนก็อนุมัติ ในฐานะที่เป็นผอ.ศบค.ทุกกระทรวงต้องมาช่วยกันตรงนี้เพราะหลายมาตรการต้องช่วยกันทั้งหมด ไม่ใช่กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง
"สิ่งที่ถามมาเมื่อสักครู่ เรื่องของมาตรการล็อคดาวน์ที่จะเข้มข้นขึ้นหรือไม่อะไรอย่างไร ขณะนี้ทางคณะแพทย์ ความเห็นของทีมแพทย์ ทีมสาธารณสุข ก็ยังคงเห็นชอบในมาตรการเดิมอยู่ ยังใช้ได้อยู่ในช่วงนี้ แล้วก็ต้องพิจารณาต่อไปตามห่วงระยะเวลา
เราอาจจะเห็นตัวเลขมันแดงมันขึ้นขนาดนี้ มีขึ้นมีลง ดูตัวเลขผู้รักษาหายสูงขึ้นใช่ไหม ก็ต้องให้ความสำคัญกับตัวเลขผู้ที่รักษาหายในระบบ ส่วนนอกระบบที่ผมทราบก็มีการดูแลกันเองในชุมชน มีการใช้แพทย์ทางเลือก สมุนไพร จำนวนนั้นก็หายไปอีกเยอะ"
นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า การที่ตัวเลขไม่ลดลงมีหลายประการด้วยกัน ถ้าเราสามารถปฏิบัติตามมาตรการตามที่ประกาศไปแล้วทุกคน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มันก็อาจจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง มีอุปสรรคอยู่บ้าง
สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว ที่ห้ามตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง ก็อย่าทำเลย ถ้ายังทำอยู่ก็ทำอะไรไม่ได้การแพร่ระบาดก็จะมากขึ้น การเดินทาง การมั่วสุม วันนี้ก็มีหลายกรณีที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งเป็นต้นตอของการระบาด
"ถ้าเราพิจารณาการแพร่ระบาดของเราอาจจะมองดูแล้วน่าตกใจ การเสียชีวิต แต่ละวันก็อยากให้ลองสนใจดูตัวเลขต่าง ๆ ของเพื่อนบ้าน ของต่างประเทศบ้าง วันนี้ทุกประเทศได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งสิ้น มากบ้างน้อยบ้าง อันดับต้น ๆ ก็มีอยู่หลายประเทศก็เห็นอยู่ มากกว่าเราหลายเท่า ของเราเราก็ตั้งใจว่า ไม่อยากให้มีการเสียชีวิต
ถ้าสมมติถ้าเราทำตามมาตรการครบทุกอย่าง อย่างน้อยก็ป้องกันตัวเองได้ก่อน ป้องกันครอบครัวได้ก่อน ตัวเองไม่ไปติดเชื้อมาจากข้างนอก ไม่เอาเชื้อไปแพร่คนในครอบครัวทั้งบ้าน" นายกฯ กล่าว
ส่วนการฉีดวัคซีน ฉีดแล้วไม่ใช่ว่าไม่ติดเชื้อ ถ้าไปใกล้ชิดกับคนมีเชื้อมีปัญหาแน่นอน แล้วเอาไปติดที่บ้าน หลายบ้านคนในบ้านก็ออกไปทำงาน บางทีก็เอากลับมาติดในบ้านอีก มาตรการในครอบครัวก็สำคัญ