“กมธ.งบ 65”ถกนัดสุดท้ายโหวตเท 1.6 หมื่นล้าน โปะ“งบกลาง”แก้โควิด-19

02 ส.ค. 2564 | 09:47 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ส.ค. 2564 | 16:58 น.

“กมธ.งบ 65” ประชุมนัดสุดท้าย ลงมติโหวตเทงบ 16,300 ล้านบาท ที่ ปรับลดจากหน่วยงานต่างๆ ไว้ที่ “งบกลาง”อ้างแก้โควิด-19 ขณะที่กมธ.จากพรรคก้าวไกล โวยโอนไปอยู่ภายใต้ "นายกฯ" ตรวจสอบยาก

วันนี้ (2 ส.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ได้ประชุมกันเป็นนัดสุดท้าย โดยมี นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานกมธ.งบ 65 คนที่ 5  ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาการแปรญัตติงบประมาณ จำนวน 16,300 ล้านบาท ที่กมธ.ตัดลดงบจากหน่วยงานต่างๆ จากจำนวนงบประมาณรายจ่ายปี 2565 ที่เสนอขอทั้งหมด  3.1 ล้านล้านบาท

 

สำหรับคำแปรญัตตินั้น มีเสนอเข้ามา 2 ญัตติ คือ  1.ญัตติของ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่ขอแปรงบ 16,300ล้านบาท ไปไว้ที่งบกลาง 1 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือกระจายให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และสำนักงานอัยการสูงสุด 


และ 2.ญัตติของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กมธ.งบ เสนอแปรงบ 16,300 ล้านบาท ไปให้ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อชดเชยรายได้ภาษีที่ดินที่หายไปจากการลดอัตราภาษีที่ดินปี 2563-2564 มูลค่า 13,200 ล้านบาท ส่วนที่เหลือกระจายให้สำนักงานกองทุนหลักประกันสุขภาพ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กองทุนการออมแห่งชาติ
 

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมกมธ.ลงมติเสียงข้างมากด้วยคะแนน 35 ต่อ 7 ให้แปรงบ 16,300 ล้านบาท ไปไว้ที่ “งบกลาง” ทั้งหมด 

 

โดยเสียงคัดค้าน 7เสียง ประกอบด้วย กมธ.จากพรรคก้าวไกล 6 เสียง และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ขณะที่ กมธ.จากพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงกมธ.พรรคเพื่อไทย ลงมติเห็นชอบให้แปรงบ 16,300ล้านบาท ไปไว้ที่งบกลาง

 

ด้าน น.ส.ศิริกัญญา ตั้งข้อสังเกตถึงญัตติของ นายบุญสิงห์ ว่า ไม่เหมาะสมและไม่ชอบมาพากล เพราะการนำงบประมาณที่ปรับลดจัดสรรไว้ใน “งบกลาง” จำนวน 1 หมื่นล้านบาท แม้จะระบุว่าเพื่อแก้ปัญหาโควิด-19 แต่ที่ผ่านมาสภาฯ ได้อนุมัติพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท ให้ดำเนินการ ดังนั้น การแปรญัตติไว้ให้งบกลาง เท่ากับให้งบประมาณอยู่ภายใต้อำนาจพิจารณาของนายกรัฐมนตรี และยากจะตรวจสอบ


"ที่แปรญัตติให้งบกลาง ดูแล้วไม่ชอบมาพากล เพราะเมื่อมี กมธ.ฝ่ายรัฐบาลบางส่วนคัดค้านการแปรงบไปให้งบกลาง 1 หมื่นล้านบาท ก็มีการเจรจาต่อรอง ปรับเหลือ 5 พันล้านบาท แสดงว่า เป็นการตั้งไว้เพื่อต่อรองกัน หรือ เป็นเพียงแค่การเตรียมงบประมาณไว้สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นเท่านั้น อยากให้ช่วยกันคืนงบของประชาชนเพื่อสวัสดิการของประชาชน อย่าตีเช็กเปล่าให้นายกฯ จะนำข้อมูลดังกล่าวไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วย" น.ส.ศิริกัญญา ระบุ
 

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานกมธ.งบ 65 คนที่ 3 กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วยกับการแปรญัตติงบประมาณที่ถูกปรับลดจากส่วนราชการต่างๆ ไปไว้ที่งบกลางว่า เรื่องนี้เป็นความจำเป็นต้องนำงบประมาณไปเพิ่ม เพื่อใช้แก้ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกวัน 

 

จึงควรจัดสรรงบประมาณดังกล่าวไปไว้ในงบกลาง ซึ่งสำนักงบประมาณประเมินว่า ต้องจัดสรรงบประมาณไปในส่วนใดบ้าง หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ผู้ว่าฯ สามารประสานขออนุมัติงบกลางนำไปใช้ได้ทันที จึงไม่เห็นด้วยที่ฝ่ายค้านจะโยกไปไว้ยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การโอนงบมาอยูที่งบกลางนั้น การตรวจสอบก็ยังทำได้ เนื่องจากก่อนนำงบประมาณทุกอย่างไปใช้ ทุกหน่วยต้องเสนอแผนงานมา ส่วนผู้บริหารจัดการงบประมาณนั้น เป็นหน้าที่ของรัฐบาล

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะประชุมกันเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2565 ที่กรรมาธิการพิจารณาแปรญัตติเสร็จแล้ว ระหว่างวันที่ 18-20 ส.ค.นี้