สุทินเชื่อมีเงินทอนวัคซีน “ภาษากายมันบอก”

วันที่ 2 มิ.ย.64 เวลา 22.07 น. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายปิดท้ายของฝ่ายค้าน ในที่ประชุมสภาฯ ซึ่งพิจารณาวาระแรกของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ตอนหนึ่งว่า ประชาชนหมดหวังกับวัคซีนแก้โควิด-19 เนื่องจากตนได้รับข้อมูลจาก อสม. จังหวัดมหาสารคาม ระบุว่าจำนวนวัคซีนที่จังหวัดควรได้ 1.2 แสนโดส แต่ได้รับจริง แค่ 3,000 โดส แม้วันนี้การนำเข้าวัคซีนมาตามกำหนด แต่การกระจายวัคซีนนั้นตนหมดหวัง อย่างไรก็ดีตนเชื่อว่าการจัดซื้อวัคซีนของรัฐบาลนั้นมีผลประโยชน์และมีเงินทอน

“ผมเชื่อได้ว่า จะมีผลประโยชน์และเงินทอนการซื้อวัคซีน แต่ไม่มีใบเสร็จ แต่ดูภาษากายก็รู้ ทั้งการไม่เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ และไม่ยอมซื้อวัคซีนของประเทศที่มีความเข้มงวดเรื่องการไม่ติดสินบน ขณะเดียวกันหมอจากโรงพยาบาลเอกชนแฉว่าการเดินเรื่องนำเข้าวัคซีนยุ่งยาก มีเพียงบางยี่ห้อที่รัฐบาลอยากได้เท่านั้นที่ผ่านง่าย ทั้งนี้ผมขอให้รัฐบาลปรับทำงานเชิงรุก เพราะไวรัสไม่ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง แต่การหาวัคซีนล่าช้า ใช้ระบบราชการ ต้องผ่านขั้นตอน อีกทั้งยังนั่งรอวัคซีนมาหา ทั้งที่ควรวิ่งไปหาวัคซีนและเร่งเจรจา” นายสุทิน อภิปราย

นายสุทิน อภิปรายยืนยันลงมติไม่รับหลักการร่างพ.ร.บ.งบฯ 65 เพราะต้องการให้นำไปปรับปรุงและเสนอใหม่ ส่วนจะรับหรือไม่นั้นต้องคิดหนัก หากพล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นผู้บริหารงบประมาณ ดังนั้นต้องเปลี่ยนตัวผู้นำรัฐบาล เพื่อช่วยชาติ

นายสุทิน อภิปรายถึงโครงการรับจำนำข้าวด้วยว่า เป็นนโยบายของรัฐ ที่ไม่พบการขาดทุน แต่การยึดอำนาจรัฐประหารและดำเนินคดี ทำให้เรื่องดังกล่าวมีปัญหา การขาดทุนย่อยยับ ทั้งนี้การทำโครงการรับจำนำข้าวนั้นเป็นโครงการช่วยชาวบ้าน ซึ่งปี 2555 - 2556 เก็บภาษี และรายได้เกินเป้า 5 หมื่นล้านบาท และลดหนี้สาธารณะได้ นอกจากนั้นประชาชนยังพึงพอใจ ดังนั้นบางโครงการอย่าประเมินเป็นตัวเงินอย่างเดียว ไม่เช่นนั้นต้องถามว่าโครงการประกันรายได้เกษตรกร ที่รัฐบาลปัจจุบันดำเนินการนั้นได้กำไร หรือขาดทุน ตนตอบได้ว่าขาดทุน เพราะไม่ได้ข้าวสักเมล็ด แต่ต่างจากโครงการจำนำข้าว

"โครงการสวัสดิการรัฐ เที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง ได้กำไรตรงไหน ผมมองว่าขาดทุนตั้งแต่วันแรก แต่สิ่งที่ได้คือการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ส่วนโครงการรับจำนำข้าว แม้เป็นนโยบายสาธารณะ ไม่ขาดทุน เพราะจำนำ จ่ายค่าข้าว มีข้าวในสต็อก รอการขาย ยังไม่ทำจบโครงการ เกิดปฏิวัติก่อน จากนั้นล็อคโรงสี ล็อคสต็อก ขายข้าวดี เป็นข้าวเสีย ทำให้ขาดทุน หากติดตามข่าวจะพบว่าทางบัญชีไม่ขาดทุน หากจะอ้างว่า ชำระหนี้สาธารณะแทนโครงการจำนำข้าวของนายกฯยิ่งลักษณ์ ขาดทุน 3 แสนล้านบาท  แต่ตลอด 7 ปี ท่านก่อนหนี้สาธารณะมากกว่าไม่รู้กี่เท่า ที่บอกว่าใช้หนี้จำนำข้าว 8 ปี แต่หนี้สาธารณะของพล.อ.ประยุทธ์ จะใช้เวลา 102 ปีจึงจะหมด" นายสุทิน อภิปราย          

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงและกล่าวสรุปต่อสภาฯ ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วาระแรก โดยกล่าวถึงโครงการรับจำนำข้าวด้วยว่า “เรื่องนี้มีคดีที่ ป.ป.ช.ถูกต้องหรือไม่ มีการตรวจสอบ เมื่อไม่ระงับยับยั้ง มีคนดำเนินคดี ถูกฟ้องติดคุก และมีคนหนีคดี”