กมธ.ตำรวจ ยัน ผบช.น. แจงปมสลายม็อบ ตามหลักสากล ตำรวจควบคุมฝูงชน

19 ส.ค. 2564 | 07:28 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ส.ค. 2564 | 15:00 น.

กมธ.ตำรวจ พอใจ ผบช.น. แจงปมสลายม็อบ เป็นไปตามหลักสากล ยินดีสอบเพิ่ม หากใครมีหลักฐาน ปัดมวยล้ม ใช้ กมธ.แก้ตัวแทน ตำรวจควบคุมฝูงชน


วันที่ 19 ส.ค. 2564 นางสาวจิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองประธานกรรมาธิการ (กมธ.)การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวภายหลัง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา  ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  (ผบช.น.). เข้าชี้แจง กรณีการควบคุมสถานการณ์การชุมนุม ว่า ผบช.น. ได้นำพยานหลักฐาน มายืนยันกับทางกรรมาธิการ ว่าการสลาย และการควบคุมการชุมนุม ปฏิบัติตามแผน ไม่ได้เลือกปฏิบัติ และเพื่อควบคุมสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และอุปการณ์ที่นำมาใช้ เป็นไปตามแผนดูแลการชุมนุม ตาม พ.ร.บ. ชุมนุมสาธารณะ ปี 2558 แต่พบว่า ทุกครั้งที่ควบคุมสถานการณ์ นั้น มีเหตุจำเป็น เพราะป้องการการทำลายทรัพย์สินและความปลอดภัยของประชาชน และเมื่อจับกลุ่มผู้ชุมนุมได้ จะพบอาวุธตลอด

 

ส่วนกรณีกลับสื่อมวลชนตำรวจยืนยันว่า มีแนวทางปฏิบัติ โดยจะสังเกตจากสัญลักษณ์ปลอกแขน ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าตำรวจควบคุมฝูงชนเห็นการควบคุมการชุมนุมเป็นสนามซ้อม ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลชี้แจงว่า การใช้อาวุธทุกครั้งจะต้องได้รับอนุญาตและไม่ได้ทุกคนที่จะใช้ได้จะเป็นขั้นของการปฎิบัติการ ทั้งนี้ ประธานกรรมาธิการได้ฝากเจ้าที่ตำรวจให้ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักสากล

กมธ.ตำรวจ ยัน  ผบช.น. แจงปมสลายม็อบ ตามหลักสากล ตำรวจควบคุมฝูงชน

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วจากข้อมูลดังกล่าวสามารถเชื่อได้หรือไม่ นายสัญญา นิลสุพรรณ รองประธานกรรมาธิการตำรวจ ระบุ ยอมรับว่า พอใจกับการชี้แจงของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ เพราะได้มีการนำพยานหลักฐานมายืนยันต่อกรรมาธิการชัดเจน และการปฎิบัติกับผู้ชุมนุมยังอยู่ภายใต้หลักสากล

                  
 

ทั้งนี้ ยืนยันว่า การเรียกเจ้าที่ตำรวจ และการตรวจสอบของกรรมาธิการวันนี้ไม่ได้เป็นการฟังความข้างเดียวหรือเป็นมวยล้มต้มคนดู หนูยังไม่ได้เพราะทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ได้มีการร้องเรียนกับ กรรมาธิการไปที่เราหยิบเรื่องนี้มาตรวจสอบเพราะเห็นว่าสถานการณ์เริ่มบานปลาย ทั้งนี้หากมีข้อมูลหรือหลักฐานที่แสดงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังเกินกว่าเหตุสามารถส่งมาให้กับกรรมาธิการ และยินดีที่จะตรวจสอบต่อไป

เมื่อถามว่าการยิงกระสุนใกล้กับกลุ่มผู้ชุมนุมถือเป็นถือเป็นการปฏิบัติตามหลักสากลจริงหรือไม่และวิถีกระสุนที่ไม่เป็นไปตามการสาธิต ทางตำรวจบอกว่าให้สื่อมวลชนดูว่า ตำรวจได้นำหลักฐานและวิธีการทดลองมาให้กรรมาธิการดูแล้วอธิบายว่าเป็นการยิงวิถีโค้ง ซึ่งในสถานการณ์จริง อยู่ในบนสะพานและในพื้นที่ต่างกัน ส่วนเรื่องการดึงทหารเข้ามาช่วยตำรวจในการควบคุมสถานการณ์ ได้มีการสอบถามหรือไม่นั้นระบุว่าวันนี้ยังไม่มีการพูดคุยในประเด็นดังกล่าว