วันนี้(23 ส.ค.64) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวสรุปสถานการณ์การชุมนุมในวันที่ 22 สิงหาคม 2564
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าววา เมื่อวานที่สามเหลี่ยมดินแดง จะเห็นว่า กลุ่มผู้ชุมนุม ได้ทำการขว้างปาสิ่งของ ลูกแก้ว พลุ ไฟ ระเบิดปิงปอง ระเบิดแสวงเครื่อง ขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่เพื่อหวังทำร้าย
ขณะเดียวกันยังได้ทำร้ายทรัพย์สิน สิ่งของราชการและของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหาย ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 8 นาย ได้จับกุมผู้ชุมนุมจำนวน 42 คน ยึดรถจักยานยนต์จำนวน 27 คัน รวมถึงปืน ระเบิด ระเบิดแสวงเครื่อง และอื่นๆ อีกจำนวนมาก แจ้งข้อกล่าวหาฐานมั่วสุมกันเกินกว่า 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความไม่สงบ เมื่อสั่งให้ยุติก็ไม่ดำเนินการ, ความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน และพรบ.ควบคุมโรคติดต่อ
สำหรับการจับกุมผู้กระทำผิดส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชนเป็นจำนวนมาก หากพบว่า ผู้ปกครองได้มีการส่งเสริม ไม่ดูแลบุตรหลานของตน ก็จะเข้าข่ายความผิดตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก ส่วนการให้ประกันตัวนั้น อยู่ที่ดุลพินิจของศาล
ส่วนปืน และ รถจักรยานยนต์ พนักงานสอบสวนจะร้องขอต่ออัยการ เพื่อทำการริบของกลางให้ตกเป็นของแผ่นดิน กรณีถูกยืมรถขอนำมาใช้ ตัวพนักงานต้องออกหมายเรียกเจ้าของรถที่แท้จริงมาให้ปากคำ หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดก็จะถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
ด้านการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ในช่วงเดือนกรกฎาคมรวมทั้งหมด จำนวน 92 คดี เข้าข่ายความผิดจำนวน 523 คน จับกุมได้แล้ว 266 คน ส่วนภาพรวมตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงปัจจุบัน มีคดีเกี่ยวกับความมั่นคง 341 คดี ดำเนินคดีไปแล้ว 200 คดี และอยู่ระหว่างดำเนินคดี 141 คดี ตำรวจได้ออกหมายเรียกมารับทราบแล้ว รวม 118 หมาย เป็นกลุ่มแกนนำ 16 หมาย และอื่นๆอีก 112 หมาย ยืนยันจะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายทุกคน
ขณะที่ พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวถึงเส้นทางที่จะได้รับผลกระทบในช่วงที่จะมีการชุมนุมในพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดงเย็นวันนี้(23 ส.ค.64) ว่า ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง ถนนพญาไท, ถนนราชวิถี, ถนนพลหลโยธิน, ถนนอโศก, ถนนวิภาวดีรังสิต ทั้งขาเข้าและขาออก รวมถึงถนนวิภาวดี ซอย 2 ถนนราชปรารถ ตั้งแต่แยกประตูน้ำถึงสามเหลี่ยมดินแดง
ส่วนภาพการจับกุมผู้ต้องหาที่อาจจะเผยให้เห็นว่า มีความรุนแรงนั้น หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ประกาศเตือนไปแล้ว กลุ้มผู้ชุมนุมยังคงไม่ดำเนินตามคำสั่ง ตำรวจจึงต้องใช้มาตราจากเบาไปหาหนัก อยากให้มองว่าเป็นการระงับยับยั้งการก่อเหตุความวุ่นวาย ตำรวจได้มีการวางแผนในการจับกุม