ผบ.ตร.สั่งปรับยุทธวิธีรับมือ"ม็อบเยาวชน"ไม่บุกซอกซอย-ชุมชน 

21 ส.ค. 2564 | 11:39 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ส.ค. 2564 | 18:48 น.

"ผบ.ตร."สั่งปรับยุทธวิธีรับมือ "ม็อบเยาวชน"ปะทะตำรวจ ไม่บุกตามซอย-ชุมชน เน้นทำความเข้าใจประชาชน ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่โดนกดดันหนัก

วันนี้(21 ส.ค.64) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงข่าวหลังการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลการชุมนุมทางการเมืองว่า ช่วง 2-3 วันนี้มีข่าวการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เราได้พูดคุยกันในรายละเอียด กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ได้ชี้แจงรายละเอียดหลายส่วน และต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อมีคำตอบให้กับสังคมที่ตั้งคำถามว่าเราใช้ความรุนแรงจริงไหม

 

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ต้องให้กำลังผู้ทำงานด้วย เพราะการทำหน้าที่มันอยู่ภายใต้ความกดดันที่สูงมาก สถานการณ์ตอนนี้มันมีการเปลี่ยนแปลงในหลายรูปแบบเดิม ตำรวจต้องบริหารจัดการรักษาความสงบเรียบร้อยในเรื่องการชุมนุม การกำกับการดูแลความปลอดภัย ในขณะเดียวกันก็บังคับใช้กฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายในลักษณะการชุมนุม 

 

"แต่วันนี้มันไม่ใช่แค่นั้น เป็นการจัดการคนที่ใช้ความรุนแรงซึ่งไม่ใช่การชุมนุม แต่เป็นการกระจายตัวก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ และเป็นการขยายตัวปฏิบัติการในพื้นที่วงกว้าง เจ้าหน้าที่ก็ต้องปรับยุทธวิธี จัดเป็นชุดปฏิบัติการขนาดเล็ก เพื่อสกัดกั้น จับกุม ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่า ขณะนี้ผู้ที่ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นเยาวชน" 

ผบ.ตร. กล่าวว่า จากที่ทราบและจากการรายงาน ผบช.น.บอกว่า เมื่อวานจับ 24 คน เป็นเยาวชน 11 คน นี่เป็นปัญหาของเจ้าหน้าที่แล้วว่า ไม่ใช่เรื่องของม็อบ แต่เป็นเรื่องการก่อเหตุ ระเบิดปิงปอง หัวน็อตยิง ตำรวจ ต้องจัดกำลังเข้าไประงับยับยั้งจับกุม พื้นที่ก็กว้างขวาง หลายจุดพร้อมๆ กัน ที่สำคัญคือ เป็นการจัดการกับเยาวชน 

 

ในสถานการณ์เวลานั้นๆ เจ้าหน้าที่คงแยกไม่ได้ว่า อันนี้เป็นผู้ใหญ่หรือเด็ก เราก็ต้องกลับมาทบทวนยุทธวิธี มาตรการต่างๆ กันใหม่อีกรอบว่าจะทำอย่างไรจะสามารถจัดการปัญหานี้ได้ แล้วไม่เกิดเรื่องที่สังคมไม่สบายใจ เจ้าหน้าที่ก็ไม่สบายใจ ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ 

 

"ขณะเดียวกัน เราก็ต้องให้กำลังใจผู้ปฏิบัติ เขาอยู่ในสถานการณ์ที่พร้อมจะบาดเจ็บเมื่อไรก็ได้ เราก็เจ็บทุกวัน ผมก็พยายามทำเข้าใจทุกระดับชั้น ต้องดูแลผู้บังคับบัญชาให้ใกล้ชิด เน้นเรื่องข้อกำหนด กฎกติกาต่างๆ ตามกฎหมาย เรื่องยุทธวิธี เรื่องกฎการปะทะ การใช้อาวุธต่างๆ ต้องอยู่ภายใต้กรอบ วันนี้ก็คงได้เห็นว่า หลังจากนี้ไปเราจะมีการปรับยุทธวิธี โดยนครบาลจะบริหารจัดการ" 
 

 

ส่วนเรื่องการทำความเข้าใจกับชุมชนแฟลตดินแดง ซึ่งมีกลายเป็นพื้นที่การปะทะด้วย ผบ.ตร.กล่าวว่า ตอนนี้ก็คุยกันว่า ในพื้นที่พักอาศัย พื้นที่ชุมนุม ยากต่อการปฏิบัติ เราก็จะไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าแล้ว หากเข้าไปจะเกิดผลกระทบ เน้นพื้นที่ถนนใหญ่ หากมีการทำลายทรัพย์สินราชการหรือทำร้ายเจ้าหน้าที่จะจัดการตรงถนนใหญ่ ตรอกซอกซอยไม่อาจเข้าได้ เพราะกระทบที่อยู่อาศัย จะปรับพื้นที่ปฏิบัติการ 

 

"ที่ผ่านมา เราพยายามรักษาพื้นที่ ต้องพิจารณาหลายประเด็น หนึ่ง เป็นพื้นที่ที่ทางยุทธวิธีเราต้องได้เปรียบ เราสามารถรักษาพื้นที่ได้ ลดการปะทะให้น้อยที่สุด ไม่ใช่เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปลอดภัย แต่เราต้องการให้ประชาชนปลอดภัยด้วยกัน ถ้ามันเกิดปัญหากระทบที่พักอาสัยก็ต้องปรับ เราพยายามจะปรับไปเรื่อยๆ พี่น้องประชาชนที่เกิดผลกระทบก็ได้พูดคุยกับนครบาลแล้วว่า พยายามส่งทีมงานพบปะพูดคุยทำความเข้าใจ ถ้าเกิดความเดือดร้อนอะไรก็พยายามเข้าไปดูแล โดยเฉพาะแฟลตดินแดง" 

 

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าพื้นที่ดินแดงจะมีการปะทะยืดเยื้ออีกนานไหม ผบ.ตร.กล่าวว่า การจัดการ เจ้าหน้าที่ทำได้เท่าที่กฎหมายกำหนด ใช้กฎหมายธรรมดาจัดการ มีการจับกุมทุกวัน ขณะเดียวกันก็พยายามเข้าถึงต้นตอปัญญา เข้าไปพูดคุยกับพ่อแม่ผู้ปกครองของเยาวชน พยายามจะคัดแยกกลุ่มนี้ ตนไม่อยากจะระบุชื่อสถาบัน ระบุชื่อจังหวัด 

 

"แต่ตอนนี้มีการจัดการเรื่องพวกนี้อยู่ มีการพบปะพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจว่าน้องๆ เยาวชนมาแบบนี้ เหตุผลลึกๆ คืออะไร เราตามอยู่ แต่รายละเอียดไม่อยากเปิดเผยกันตรงนี้ และยังมีการดำเนินคดีกับแกนนำที่เรามองว่าเป็นจุดที่ดึงเด็กออกมา แต่ปัญหาของเราตอนนี้เราต้องดีลกับเยาวชนเป็นหลัก เราต้องปรับยุทธวิธี "ผบ.ตร.ระบุ