วันนี้ (23 ส.ค.64) น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยความคืบหน้าคดีกรณีป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี กับพวก คดีปรับปรุงข้าวส่งออกไปยังอินโดนีเซีย เอื้อประบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด หรือ คดีข้าวบูล็อค ว่า คดีดังกล่าวมีการชี้มูล นายกิตติรัตน์ กับพวก เนื่องจากตามทางไต่สวน มีการทักท้วงจากผู้ส่งออกข้าว 2-3 ราย ถึงวิธีการในการเปิดประมูลการปรับปรุงข้าวส่งออกไปยังอินโดนีเซียดังกล่าวว่า อาจทำโดยมิชอบ เบื้องต้นได้ส่งสำนวนให้กับ อัยการสูงสุด (อสส.) แล้ว ปัจจุบัน อสส.กำลังพิจารณาอยู่
ส่วนคดีการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้แก่ ระบายข้าวจีทูจีล็อต 2 มีการตั้งไต่สวนเพิ่มเติมอย่างน้อย 2-3 ราย และมีการกันพยานบุคคลอยู่ มีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว
คดีนี้มีบุคคลที่ถูกไต่สวนเพิ่มเติม 2-3 ราย ส่วนใหญ่เป็นอดีตนักการเมืองที่อยู่ต่างประเทศ รวมทั้งอดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นผู้ถูกกล่าวหา
ขณะที่คดีขายมันสำปะหลัง (มันเส้น) จีทูจี กำลังสรุปสำนวนการไต่สวน โดยทั้ง 2 คดีพยายามจะทำให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.64 แต่เนื่องจากมีปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องบางรายไม่สามารถเข้าให้ปากคำได้
สำหรับคดีจีทูจียุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีอยู่ 3 คดี คือ คดีระบายมันสำปะหลังจีทูจี ระบายข้าวจีทูจี และการประมูลข้าวเป็นอาหารสัตว์เลี้ยง ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ที่ล่าช้าเนื่องจากมีพยานเอกสารบางรายการไม่เหมือนต้นฉบับ เช่นที่ไม่ปรากฏลายเซ็นของบุคคลใดเลย ทำให้ต้องรอเอกสารตัวจริง และรอเสนอองค์คณะพิจารณาว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาใครบ้าง ยืนยันคดีไม่หมดอายุความ เนื่องจากมีอายุความ 20 ปี