วันที่ 26 สิงหาคม 2564 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความพร้อมการขอเปิดอภิปรายเป็นการทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้จะทำให้พี่น้องประชาชนเห็นว่า รัฐบาลชุดนี้ เป็นรัฐบาลที่โอหังคลั่งอำนาจ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านได้บรรจุคำกล่าวหานี้ไว้ในญัตติ เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้รัฐบาล มีความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ได้ จึงบริหารงานด้วยความประมาท ไม่สนใจต่อคำทักท้วงแนะนำหรือตักเตือนของเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยนายกรัฐมนตรีได้รวบอำนาจการใช้กฎหมายและแก้ไขสถานการณ์ทั้งหมดไว้ที่ตัวเอง ไม่กระจายอำนาจไปให้หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องและมีความชำนาญเข้ามาร่วมคิดช่วยแก้ไขปัญหา
รวมไปถึงกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้พูดต่อสภาผู้แทนราษฎรว่าในไตรมาสที่ 3 คนไทยจะมีวัคซีนเต็มแขน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่เป็นความจริง อีกทั้งที่ผ่านมากระบวนการจัดซื้อวัคซีนถูกครหาอย่างมากในเรื่องของคุณภาพและราคาที่ไม่สมเหตุผล
นายประเสริฐ กล่าวว่า ด้วยความล้มเหลวในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดที่ผิดพลาด ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ พรรคฝ่ายค้านทนเห็นรัฐบาลชุดนี้บริหารจัดการแก้ไขสถานการณ์โควิดล้มเหลวต่อไปไม่ได้ ทนเห็นชีวิตผู้คนต้องเจ็บป่วยล้มตายรายวันไม่ได้ รัฐบาลยิ่งอยู่นาน จึงตัดสินใจยื่นญัตติอภิปรายเป็นการทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ เพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้นและเชื่อมั่นว่าจะส่งผลสะเทือนต่อรัฐบาลไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
“รัฐบาลไม่ควรจะคิดมีนอกมีใน เพราะเรื่องนี้คือชีวิตของประชาชน รัฐควรทำด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เมื่อรัฐบาลเคยบอกว่าสามารถตอบคำถามทุกอย่างได้ ถามเมื่อไหร่ก็ตอบได้ ฝ่ายค้านก็พร้อมจะอภิปรายเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ผมมั่นใจว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลแน่นอน”