วันที่ 26 ส.ค.64 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของฝ่ายค้าน ว่า จะมีการตั้งวอร์รูมนอกสภา โดยมีคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีทุกกระทรวง ทุกพรรคการเมืองซีกรัฐบาล จะตั้งวอร์รูมนอกสภา เพื่อรับมือญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน คอยทำหน้าที่ในการหาข้อมูลสนับสนุนและพิทักษ์ปกป้องนายกฯและรัฐมนตรี ที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยมีตนเป็นหัวหน้าทีมตอบโต้ฝ่ายค้าน และมีนักกฎหมายไว้เตรียมการดำเนินคดีกับส.ส.ฝ่ายค้าน ในกรณีที่บิดเบือนใส่ร้ายป้ายสี ใช้หลักฐานอันเป็นเท็จและโจมตีจาบจ้วงก้าวล่วงดูหมิ่นดูแคลนสถาบันเบื้องสูง
ทั้งนี้วอร์รูมนอกสภาจะทำงานเชิงรุกตอบโต้ฝ่ายค้าน ซึ่งไม่ใช่การคุกคามหรือข่มขู่ แต่เพื่อป้องปรามและส่งสัญญาณเตือนถึงฝ่ายค้านว่าอย่าได้อภิปรายนอกลู่นอกทางหรือสร้างหลักฐานอันเป็นเท็จ ตลอดจนอย่าก้าวล่วงจาบจ้วงสถาบันอย่างเด็ดขาดอาจจะโดนดำเนินคดีมาตรา 112 ได้
นายเสกสกล กล่าวว่า การที่ฝ่ายค้านเขียนญัตติใช้ภาษาที่ทุเรศอัปยศอดสูที่สุด เสมือนดูถูกประชาชน ไม่เคยมีฝ่ายค้านยุคไหนที่ใช้ภาษาดูหมิ่นดูแคลนผู้นำประเทศ และไม่ยอมใช้วิธีเล่นการเมืองยึดกติกาในสภาตามระบอบประชาธิปไตย แต่เล่นการเมืองเถื่อนนอกสภาโดยใช้แคมเปญลงชื่อไล่ล่านายกฯ วิธีการเล่นการเมืองแบบป่าเถื่อนนอกสภาไม่ยึดมั่นในกติกาประชาธิปไตย เป็นพรรคฝ่ายค้านที่เลวร้าย ใจอำมหิตเป็นความคิดที่ชั่วช้าสารเลวของพรรคเพื่อไทยในยุคตกต่ำที่สุด เพื่อหวังล้มรัฐบาล และกลับมามีอำนาจช่วย นายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับมาฟอกตัวให้พ้นคดีทุจริตให้ได้ จึง
ไม่ต่างกับหมาบ้าที่ไล่งับไล่กัดชาวบ้านไปทั่ว สุดท้ายถึงจุดจบเพราะพิษหมาบ้าของตัวเองที่จะโดนประชาชนลงทัณฑ์ จนทำให้นายใหญ่ทั้งสองก็คงต้องระเหเร่ร่อนพเนจรต่อไป เพราะความคิดการเมืองแบบเพี้ยน จิตวิปริต ของคนบางคนในพรรคเพื่อไทย เหมือนกับที่เคยคิดจะออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ช่วยนายทักษิณ กลับบ้าน ในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์