ฝ่ายค้านจัดหนัก 34 ขุนพลถล่ม 6 รมต. “บิ๊กตู่-อนุทิน”เจอ 33 ชม.จาก 40 ชม.

นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 5 คน ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 31 ส.ค.- 3 ก.ย. และลงมติโหวตวันที่ 4 ก.ย. 2564 นี้ว่ว่า การอภิปรายในครั้งนี้จะมีผู้อภิปรายทั้งหมดประมาณ 34 คน แบ่งเป็น

 

พรรคเพื่อไทย 19 คน, พรรคก้าวไกล 6 คน , พรรคเสรีรวมไทย 3 คน , พรรคประชาชาติ 2 คน , พรรคเพื่อชาติ 1 คน , พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน รวมถึง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ , นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ โดยใช้เวลา 4 วันอภิปราย และลงมติอีก 1 วัน

กรอบการอภิปรายหลักๆ  จะมุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประมาณ 33 ชั่งโมง จาก ทั้งหมด 40 ชั่วโมง   

 

ต่อด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม

 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน

 

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์

 

ปิดท้ายด้วย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

 

การเปิดอภิปรายจะเริ่มโดย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านสภาผู้แทนราษฎร และปิดท้ายด้วย นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ในวันสุดท้าย

 

โดยใจความสำคัญจะอภิปรายถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล ชี้ให้เห็นถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น อีกทั้งการทุจริตในส่วนต่างๆ

 

ส่วนแนวทางการโหวตของพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายสุทิน เชื่อว่าจะไปในแนวทางเดียวกัน

 

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ครั้งนี้ ว่า หวังว่าจะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายของ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีชุดนี้

ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทย ได้เตรียมความพร้อมก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งการเปิดแคมเปญต่างๆ อย่างเช่น “หยุดยุทธ์ หยุดโอหัง คลั่งอำนาจ หยุดความพินาศของประเทศ”  และแคมเปญเชิญชวนประชาชนร่วมโหวตไม่ไว้วางใจ  ขณะนี้มีประชาชนร่วมลงชื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ กว่า 30,000 คน  รวมถึงส่งข้อมูล ข้อคิดเห็นมายังพรรค ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะนำไปประกอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้

 

นอกจากนี้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังได้ทำหนังสือกำชับ ส.ส.ทุกคน ให้ปฏิบัติตามมติพรรคอย่างเคร่งครัด คือ ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 6 คน หากใครไม่มาประชุม หรือ  ฝ่าฝืนมติพรรค จะถือว่ากระทำผิดวินัย และจริยธรรมร้ายแรง มีโทษถึงขั้นให้พ้นจากสมาชิกของพรรค

 

ขณะเดียวกัน พรรคร่วมฝ่ายค้าน ยังเชิญ ส.ส.ซีกรัฐบาล มาร่วมโหวตไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านด้วย