อภิปรายไม่ไว้วางใจ อนุทิน ลั่นกลางสภา ยัน สธ. ยุคนี้ไม่มีทุจริต

ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวานนี้ (31 สิงหาคม 2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลุกขึ้นชี้แจงภายหลังถูกพาดพิงจากฝ่ายค้านเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคในราคาแพงตอนหนึ่งว่า 

วัคซีนซิโนแวคที่นำเข้ามาในประเทศไทยช่วงเริ่มแรกนั้น เป็นช่วงที่ประเทศไทยพบผู้ป่วยติดโควิดสายพันธุ์อัลฟ่า หรือ ประมาณช่วงสิ้นปี 2563 ต่อเนื่องถึงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายนปีนี้ซึ่งวัคซีนซิโนแวคนี้ก็อยู่ในแผนการจัดซื้อของรัฐบาลไทยอยู่แล้ว เพียงแต่จะจัดซื้อจำนวนเท่าใด และมาเทียบกับวัคซีนแอสตร้าฯและวัคซีนอื่นๆ จะบริหารจัดการอย่างไร เพราะว่าในปีที่แล้วเราสามารถที่จะควบคุมสถานการณ์โควิดได้ดี ไม่มีการติดเชื้อเกือบครึ่งปี

กระทั่งปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเกิดเหตุระบาดเกิดคลัสเตอร์ใหม่ที่จังหวัดสมุทรสาคร กทม. ปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียง จึงมีความจำเป็น โดยกรมควบคุมโรคได้เร่งเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนซึ่งได้มีการประสานงานกันอยู่แล้ว

สรุปสั้นๆ ก็คือ  วัคซีนซิโนแวคเป็นวัคซีนที่สามารถส่งให้เราได้เร็วที่สุด การเจรจาเริ่มปลายเดือนธันวาคมก่อนปีใหม่ คำว่า เร็วที่สุดของซิโนแวคในขณะนั้นก็คือ ส่งได้เร็วที่สุดปลายเดือนกุมภาพันธ์ และมีอยู่เพียง 2 ล้านโด๊สเท่านั้น แต่ด้วยความร่วมมือที่ดีโดยประสานงานผ่านสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยซึ่งได้ช่วยประสานงานให้รีบได้คุยกับผู้บริหารของบริษัทผู้ผลิตวัคซีนซิโนแวค

นอกจากนั้นยังต้องประสานงานต่อไปยังรัฐบาลกลางของจีนด้วย เนื่องจากวัคซีนของจีนจะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลกลางก่อนจึงจะทำการส่งออกได้ทั้งในรูปของการจำหน่ายและการบริจาค ในที่สุดด้วยความสัมพันธ์ที่ดี บ้านพี่เมืองน้องไทยจีนใช่อื่นไกล

ดังนั้น การพูดถึง ซิโนแวค ก็เปรียบเสมือนการพูดถึงประเทศจีน เราจะบอกไม่ดี ด้อยค่า ไม่ได้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า พวกเราหลายคนในที่นี้ซึ่งอายุต่ำกว่า  60 ปีก็ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคไป และเชื่อว่า ที่เราบางคนติดเชื้อแต่ไม่มีอาการรุนแรง หรือ ไม่แสดงอาการ ก็เพราะอานิสงค์ของการมีวัคซีนซิโนแวคอยู่ในร่างการของเรา

ส่วนเรื่องของราคาของวัคซีนซิโนแวคที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าจัดซื้อมาในราคาแพงมากในราคา 17 เหรียญนั้นราคานี้เป็นการซื้อครั้งแรกจำนวน 2 ล้านโด๊สเท่านั้นเพื่อนำมาใช้ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งจริงๆแล้วเปิดราคาสูงกว่านี้แต่จากการประสานของกระทรวงผ่านสถานทูตจีนประจำประเทศไทยก็ได้ราคาเป็น 17 เหรียญ ภาษีไม่เสีย

เมื่อได้มาในวันที่ 28 ก.พ.2564  ล็อตแรกได้มาแค่ 2 แสนโด๊ส ได้เร่งฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ตามหลักการป้องกันโรคระบาด ต่อมา ในเดือนมีนาคม จัดส่งมาอีก 8 แสนโด๊ส และ 1 ล้านโด๊สสุดท้ายในเดือนเมษายน ซึ่งทางกรมควบคุมโรคได้กำหนดผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคเพื่อให้กลุ่มเสี่ยงต่างๆ ได้รับการฉีดและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและแพร่เชื้อ

โดยในเดือนเม.ย.เกิดการระบาดรอบ 3 ขึ้นมา คลัสเตอร์ทองหล่อ คลัสเตอร์บ่อนการพนัน ช่วงนั้นวัคซีนแอสตร้าฯ ในสัญญาที่ได้เซ็นไว้สามารถจัดส่งได้ในเดือนมิถุนายน  ดังนั้น จึงมีช่องว่างระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน

ในขณะที่การระบาดก็เพิ่มมากขึ้น กรมควบคุมโรคจึงตัดสินใจสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเข้ามา ซึ่งจนปัจจุบัน ราคาก็ดร็อปลงมาจากปัจจัยทางการตลาด ทั้งเรื่องของจำนวน เวลา และจำนวนคู่แข่งที่มีวัคซีนเพิ่มมากขึ้นในโลกก็เป็นไปตามกลไกตลาดดีมานด์ ซัพพลายด์

ปัจจุบันนี้เราซื้ออยู่ที่ 8.9 เหรียญก็ลดลงมาโดยลำดับ และล็อตล่าสุด มีราคาจัดซื้อที่ 8.9 เหรียญซึ่งมีใบสั่งซื้อจากองค์การเภสัชกรรม ไปยังบริษัทที่ขายวัคซีน ยืนยันราคาล่าสุดในราคาที่ถูกกว่าสั่งซื้อครั้งแรก และเมื่อซื้อถูกลงเงินไม่ได้หายไปไหน ต้องกลับเข้ารัฐ วันนี้หากรวมคำสั่งที่กำลังจะออกใบสั่งซื้อประเทศไทยจะมีวัคซีนซิโนแวครวม  30.492 ล้านโด๊ส

อย่างไรก็ดี เรื่องราคากับความปลอดภัยนั้นเทียบกันไม่ได้ ถ้าแพงกว่านี้แล้วมีความจำเป็นต้องใช้ก็ต้องจัดซื้อจัดหามาใช้ให้ได้ ซึ่งครม.ทุกคนให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เมื่อมีการขออนุมัติการซื้อ ทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์ สุจริตของการจัดซื้อ ทุกอย่างโปร่งใสและอธิบายให้กับประชาชนได้

และการจัดซื้อเวชภัณฑ์ต่างๆของไทยต้องใช้หน่วยงานที่ขึ้นทะเบียนซึ่งวัคซีนซิโนแวคไม่มีตัวแทนในประเทศไทย เมื่อจะนำเข้ามาจึงมีการแต่งตั้งให้องค์การเภสัชกรรมทำหน้าที่เป็นตัวแทนจนทำให้สามารถจัดหาวัคซีนซิโนแวคเข้ามาได้ และซิโนแวคนี้เองที่เป็นตัวเริ่มให้คนไทยหลายคนเริ่มผลิตภูมิคุ้มกันในร่างกายโดยในล็อตแรกๆเราได้ฉีดให้กับด่านหน้าซึ่งผู้ที่ได้รับวัคซีนจะไม่มีอาการหนัก ไม่มีรายงานการเสียชีวิตจากการรับวัคซีนซิโนแวค

วัคซีนซิโนแวคทำให้กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ประคองสถานการณ์โควิดต่อเนื่องมาได้จนถึงวันที่แอสตร้าฯมาถึง และสามารถรับมือกับสายพันธุ์อัลฟ่าได้ดี กระทั่งมาถึงสายพันธุ์เดลต้า

ส่วนที่มาของวัคซีนไขว้นั้นไม่ได้เรื่องฟลุ๊ค คณะกรรมการวิชาการทางการแพทย์ได้คิดกันมานานแล้วแต่กระทรวงสาธารณสุขขอให้ชะลอออกไปก่อนเพื่อให้เกิดความมั่นใจ เพราะต้องการให้มีการทดสอบและทำให้เกิดความมั่นใจมากที่สุด

ทุกเรื่องที่ทำทั้งเรื่องของการฉีดวัคซีนไขว้ไม่ไขว้ผ่านความเห็นของคณะกรรมการทางการแพทย์ ผ่านมาทางคณะกรรมการโรคติดต่อ มาถึงคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ทั้งยังและต้องรายงาน ศบค.ด้วย กว่าจะนำมาฉีดให้กับประชาชนที่ต้องมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยกับประชาชนอย่างที่สุดโดยยึดหลักต้องผ่าน อย.เป็นหลัก

พร้อมความมั่นใจโดยว่า องค์การเภสัชฯ ได้ซื้อวัคซีนซิโนแวคในราคาที่ 8.9 เหรียญ โดยนำเอกสารการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคมาโชว์ให้สมาชิกรัฐสภาด้วย

สำหรับเรื่องข้อแนะนำของ นพ.เรวัตร วิสุทธิ์เวช ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ที่เสนอให้เร่งจัดหา MrNa (ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์น่า) นั้น ยืนยันว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ทำการจัดหาไฟเซอร์จำนวน 30 ล้านโด๊สเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และปีหน้าได้ออกจดหมายขอให้กับบริษัทไฟเซอร์อีก 50 ล้านโด๊ส

ส่วนโมเดอร์นาซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือกนั้น องค์การเภสัชฯ และสภากาชาดไทย ซึ่งเป็นผู้แทนของภาคเอกชนได้ดำเนินการจัดซื้อผ่านองค์การเภสัชทั้งหมดซึ่งได้ออกพีโอไปแล้วประมาณ 5 ล้านโด๊สและจะมีการสั่งซื้อเพิ่มอีก

ดังนั้น ในประเทศไทยวันนี้ เรามีวัคซีนครบทุกตระกูลแล้ว ทั้ง ซิโนแวค แอสตร้าฯ ซิโนฟาร์ม ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ทั้งยังที่อยู่ระหว่างการทดลองอีก ส่วน จอห์นสันแอนด์จอห์นสันที่ติดปัญหาภายในของเขาเองโดยได้มีหนังสือมาขอหยุดการเจรจาไว้ก่อน จึงยืนยันว่า ประเทศไทยไม่ได้ขาดวัคซีนแต่อย่างใด

สิ้นปีนี้ ประเทศไทยจะมีวัคซีนทั้งหมด 140 ล้านโด๊ส หารสองก็ประมาณ 70 ล้านคน หรือคิดเป็น 90 % ของจำนวนประชากร ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคไปแล้วสองเข็มไม่ต้องกังวลสิ้นเดือนกันยายนนี้ได้ฉีดบูสเตอร์โด๊สจะเป็นแอสตร้าฯ หรือ ไซเฟอร์ แน่นอน

นอกจากนี้ปีหน้าท่านนายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุขคอนเฟิร์มวัคซีนของแอสตร้าฯอีก 60 ล้านโด๊สซึ่งอาจเป็นการนำมาฉีดเพื่อบูสเตอร์โด๊สไปเรื่อย ๆ ยืนยันว่า ปีหน้าคนไทยไม่ขาดแคลนวัคซีนโควิด มีความมั่นคงทางวัคซีนโควิด มีวัคซีนเต็มแขนแน่นอน

ยืนยันที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.ไตรมาส 3 เป็นต้นไปจนถึงสิ้นปีถ้าคนไทยทุกคนได้รับวัคซีนครบ 120 ล้านโด๊ส ปีหน้าก็จะมีวัคซีนมาบูสให้กับคนไทยทุกคนเพื่อให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติให้มากที่สุดภายใต้มาตรการการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือที่จะยังคงใช้กันต่อเนื่องต่อไป