วันนี้(4 ก.ย.64) ที่อาคารรัฐสภา ก่อนการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า ตนจะโหวตสวนมติพรรค ในส่วนที่ทุกคนไม่คาดคิด ตนรับไม่ได้กับข้อมูลที่ได้รับมาว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านบางพรรคทำมาหากินกับการอภิปราย โดยการนำชื่อรัฐมนตรีที่ไม่มีความผิดจริง รวมถึงข้อมูลไม่ชัดเจนมาใส่ในการอภิปรายครั้งนี้อย่างน้อย 3 คน ซึ่งเขาทำเพื่อการต่อรองคือ
1.การต่อรองทางการเมือง 2.ต่อรองเพื่อผลประโยชน์ และ 3.เก็บไว้เป็นตัวประกัน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่ชอบมาพากล ตนรับไม่ได้และไม่เคยคิดว่าในประเทศไทย สภาอันทรงเกียรติแห่งนี้จะมาเป็นเครื่องมือคนเหล่านี้ ซึ่งก็มีการทำมาหลายครั้งแล้ว
นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า ตนได้ฟังการอภิปรายในครั้งนี้ รัฐมนตรีหลายคนก็ตอบมีเหตุผล ฝ่ายค้านประเด็นการซักถามก็ไม่ชัดเจน หลักฐานไม่เพียงพอ แต่ก็มีกดและการสั่งลงมติแบบซ้ายหันขวาหัน ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่ใช่ส.ส.ผู้ทรงเกียรติของปวงชนชาวไทยทำกัน
“ผมไม่ใช่ส.ส.ของใคร แต่เป็นส.ส.ของปวงชนชาวไทยทุกคน ไม่ใช่ใครจะมาจูงจมูกลากไปลากมาก็ได้ หรือ ลงมติที่พรรคต้องการก็ได้ ผมอยากให้พรรคการเมืองเป็นพรรคของปวงชน ไม่ใช่พรรคของเจ้าของหรือเป็นบริษัท อย่างนี้มันผิดระบบ
นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า สิ่งที่รับไม่ได้ มีบางพรรคมีหนังสือออกมาและให้ส.ส.พรรคของตัวเองไปเซ็นว่าต้องให้ลงมติตามพรรค ตั้งแต่ยังไม่ได้อภิปรายเลย กรณีที่ตนจะขออภิปรายไม่ให้อภิปราย แต่มาบังคับให้ลงมติตามพรรค
“คนอย่างผมจะยอมหรือ เป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้ ขอประกาศกร้าวต่อประชาชนทั้งประเทศ ผมอยากเห็นการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงและดีกว่านี้ สิ่งเหล่านี้ผมรับไม่ได้และจะไม่ปฏิบัติตามมติพรรค และผมจะโหวตสวนมติพรรค” นายศรัณย์วุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่าทางพรรคมีบทลงโทษและคาดโทษกับส.ส.ที่ไม่ทำตามมติพรรค นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า สอบถามประชาชนว่าท่านรับได้หรือ แล้วถ้าตนเป็นแบบนั้น คงไม่ทำ สู้ตนไปสมัครกับพรรคนั้นแล้วไปประกาศว่า ตนจะเป็นทาสรับใช้พรรคนั้นตลอด เอาเช่นนั้นหรือ
เมื่อถามว่าหากถูกขับออกจากพรรค มีพรรคสำรองแล้วหรือไม่ นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า ยังไม่ได้อยู่ในความคิด ตนอาจจะไปอาศัยอยู่พรรคไหนก็ได้ หากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริงๆ
เมื่อถามต่อว่า คนที่คิดอย่างนายศรัณย์วุฒิมีอีกหรือไม่ นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า ก็มี แต่ไม่กล้าที่จะมาแสดงตัว เพราะบางคนต้องเห็นใจเขาเพราะเพิ่งเป็นส.ส. บทบาทและผลงานยังไม่แข็งกร้าวที่จะออกมาประกาศเช่นนี้ และกลัวว่าครั้งหน้าพรรคจะไม่ส่งลงเลือกตั้ง
เมื่อถามว่าหากครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยไม่ส่งนายศรัณย์วุฒิลง จะไปลงพรรคอื่นหรือไม่ นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า ตนยังไม่มีความคิดเช่นนั้นและยังไม่พร้อมที่จะตอบ แต่การเป็นนักการเมืองต้องมีความพร้อมในทุกมิติและทุกเวลา ไม่เช่นนั้นอย่ามาเป็นส.ส.ของปวงชนชาวไทย
“ผมเป็นส.ส.เขตมา ผมสาบานได้ว่าไม่เคยซื้อเสียงมา การได้รับเลือกตั้งเข้ามาก็เพราะความรักและศรัทธาของประชาชน ผมทำงานหนักมากทั้งในสภาและนอกสภา”
ต่อมา นายศรัณย์วุฒิ เปิดเผยภายหลังการลงมติ ว่า ตนลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีคนเดียว นอกนั้นตนงดออกเสียงรัฐมนตรีคนอื่นทั้งหมด