วันนี้(2 ต.ค.64) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการบริหารราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อกำหนดแนวทางและแผนการปฏิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีนายตำรวจระดับผู้บังคับการขึ้นไป เข้าร่วมการประชุมทั้งสิ้น 515 นาย ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยังทั่วประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางและแผนการปฏิบัติราชการ 1 ปีที่ผ่านมา
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า นโยบายปีหน้าจะเน้นย้ำการทำคดีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทางไซเบอร์หรือ โซเชียลมีเดีย เพราะ จากการดำเนินคดีกว่า 1 ล้านคดี ตัวเลขการทำผิดโซเชียลมีจำนวนหลักพัน คดี พร้อมยอมรับว่า การทำงานทางโซเชียลมีความอยากลำบากคือการพิสูจน์ตัวตนผู้กระทำความผิด
"สำหรับมาตรการเชิงรุก คือการจัดซื้ออุปกรณ์ที่ทันสมัย นำบุคลากร ระดับรองสารวัตรถึงรองผู้กำกับ ไปอบรมเพิ่มความรู้ เทคนิคการพิสูจน์ตัวตนกับผู้กระทำความผิด เพราะปัจจุบัน ความยากของคดีโซเชียล คือ การพิสูจน์ตัวตนของผู้กระทำความผิด โดยนายตำรวจระดับรองสารวัตรถึงรองผู้กำกับจะเป็นกำลังสำคัญที่จะเข้ามาช่วยคลี่คลายคดีทางไซเบอร์ได้ในอนาคต รวมทั้งการให้ความรู้กับประชาชนเพื่อไม่ให้ ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางไซเบอร์"
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ยังเน้นย้ำเรื่องยาเสพติดเตรียมที่จะสร้างสถานบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด โดยจะมีการนำเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ มาใช้กับผู้ถูกบำบัด และจะทำการวัดผลโดยการคืนประชาชนสู่สังคมให้ได้มากที่สุด ถือว่าเป็นดัชนีชีวัด ว่าจะมีผลสำเร็จหรือไม่ และในปีนี้จะให้มีการทำโพล สำรวจความพึงพอใจของประชาชน ที่มีต่อตำรวจ ในโรงพักต่างๆ วัดความพึงพอใจ ว่า ประชาชนมีปฏิกิริยา กับตำรวจอย่างไรบ้าง
“ส่วนการลงโทษ ตำรวจที่ทำผิดปีนี้เตรียมที่จะใช้ยาแรง โดยการมอบหมายให้จเรตำรวจแห่งชาติมีอำนาจดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องมาถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ”
นอกจากนี้ยังให้วิธีการดูแลเรื่องของสวัสดิการตำรวจและครอบครัว โดยเน้นย้ำผู้บังคับบัญชาให้ดูแลอย่างใกล้ชิด หลังจากมีข้อมูลพบว่าตำรวจทั่วประเทศกว่า 2 แสนนาย มียอดหนี้รวมกันแล้วกว่า 2 แสนล้านบาท
ส่วนตำรวจที่ไม่ผ่านมาตรฐาน เรื่องเกณฑ์ต่างๆ ในปีนี้ก็ จะมีผลต่อการแต่งตั้ง โดยจะเสนอไปยัง กตร. วาเมื่อนายตำรวจที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานต่างๆก็จะไม่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้ง