วันที่ 5 ต.ค.2564 ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีการเรียกร้องให้ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลังจากปูดข่าว 13ส.ส.พลังประชารัฐภาคใต้ จะย้ายไปอยู่พรรคของนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยว่า ตนไม่มีเวลาไปพบพ.อ.สุชาติตามที่พูดไว้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 4ต.ค. จองตั๋วเครื่องบินขากลับหลังจากเสร็จงานที่จ.สงขลา ไว้เวลา 18.00น. แต่เสร็จงาน 17.00 น.จึงไม่ได้ไปพบพ.อ.สุชาติ แต่ฝากนักข่าวไป เรื่องนี้ตนไม่คุย ในเมื่อ พ.อ.สุชาติให้ร้ายพรรคพลังประชารัฐ ก็ต้องพิจารณาตัวเอง ตนได้ส่งหนังสือให้พ.อ.สุชาติเซ็นลาออกจากพรรคไปแล้ว เพื่อให้ส่งไปที่กกต.สงขลา หรือส่งมาให้พรรคพลังประชารัฐก็ได้ หากไม่เซ็น จะทำหนังสือถึงกรรมการบริหารพรรคให้ประชุมเพื่อมีมติอย่างใดอย่างหนึ่งออกมาว่า การกระทำของพ.อ.สุชาติมีความผิดถึงขั้นให้ออกหรือไล่ออกหรือไม่ ขอเตือนพรรคใหม่ที่พ.อ.สุชาติจะไปอยู่ด้วย ให้เตรียมถังดับเพลิงหรือสายยางไว้ดับไฟด้วย เพราะพ.อ.สุชาติออกจากพรรคพลังประชารัฐยังเผาพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้หลายพรรคเริ่มเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแล้ว พรรคพลังประชารัฐยืนยันจะเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯเหมือนเดิมหรือไม่ นายสิระตอบว่า ยืนยันเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์เหมือนเดิม เพราะพรรคพลังประชารัฐยังอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ ส่วนพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสาร คาม พรรคเพื่อไทย ที่แถลงทุกสัปดาห์ตำหนิพรรคพลังประชารัฐว่า หมดยุคและแย่งชิงอำนาจกันนั้น ขอให้นายยุทธพงศ์ไปดูบ้านตัวเองก่อนว่า ลูกพรรคหนีไปกี่คนแล้ว เป็นเพราะปากนายยุทธ์พงศ์หรือไม่ที่ให้ร้ายคนอื่นตลอดเวลา
นายสิระ ยังกล่าวอายุการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตีรของพล.อ.ประยุทธ์ที่มีการตีความจะหมดวาระ 8ปีในเดือนส.ค.2565ว่า เรื่องนี้สุดท้ายต้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เคยพูดไว้ว่า เรื่องนี้ยังไม่เกิดเหตุ ยังไม่ผล ต้องรอให้เกิดเหตุมีข้อสงสัยแล้วส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คิดว่า ความคิดของนักกฎหมายไปคนละทาง ใครคิดตรงข้ามได้ออกสื่อ ถ้าคิดเหมือนคนอื่นไม่ได้ออกสื่อ คนที่คิดตรงข้ามมีความต้องการออกสื่อหรือไม่ แต่ทุกคนเรียนกฎหมายฉบับเดียวกัน ทำไมต้องขัดแย้งกันหนักหนา สุดท้ายคนที่มองพลาดไม่เคยออกมาขอโทษสังคมหรือรับผิดเลย