พรรคไทยสร้างไทย โดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรค พร้อมด้วย ดร.โภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ เข้าร่วมรับฟังปัญหาผู้ประกอบการโรงแรมบูติคจังหวัดภูเก็ตกว่า 100 คน หลังเดินทางมาเข้าพบพรรคไทยสร้างไทย เพื่อขอให้ช่วยเหลือผลกระทบจากการสิ้นสุดการผ่อนผันผู้ประกอบการโรงแรมตามคำสั่ง คสช.ที่ 6/2552 สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564ที่ผ่านมา
ดร.โภคิน กล่าวว่า กฎหมายเกี่ยวกับผู้ประกอบการโรงแรม มีความเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ อาทิ กฎหมายผังเมือง กฎหมายสิ่งแวดล้อม และกฎหมายควบคุมอาคาร จนกระทั่งมีคำสั่ง คสช.ที่ 6/2562 เพื่อผ่อนผันให้ผู้ประกอบการโรงแรมที่ผิดกฏหมาย ได้เข้าสู่ระบบได้ถูกต้อง จนถึงวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีโรงแรมทั้งสิ้นกว่า 70,000 ทั่วประเทศ แต่ได้รับใบอนุญาติ เพียง 20,000 แห่งเท่านั้น จึงส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการขนาดเล็กเป็นหลัก เนื่องจากติดปัญหากฎหมายควบคุมอาคาร ที่มุ่งเน้นอาคารขนาดใหญ่เป็นหลัก สำหรับเป็นโรงแรม
พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่าการแก้ไขปัญหาผู้ประกอบการโรงแรมในระยะเร่งด่วน คือ รัฐบาลต้องผ่อนผันการบังคับใช้กฎหมายพรบ.โรงแรมอย่างน้อยอีก 3 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงแรมสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
โดยให้ผู้ประกอบการโรงแรมที่ขออนุญาตตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ได้ปรับปรุงระบบความปลอดภัยด้านอัคคีภัยเบื้องต้น สามารถเปิดกิจการควบคู่กับการปรับปรุงอาคารตามกฎกระทรวง กำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2564 ข้อหนึ่งซึ่งอนุญาตให้อาคารเก่าก่อนปี พ.ศ. 2559 สามารถปรับปรุงอาคารให้แล้วเสร็จภายใน วันที่ 18 สิงหาคม 2567
ให้ได้รับอนุญาตชั่วคราว เพื่อเปิดกิจการและร่วม Phuket SandBox ได้ หรือออก พ.ร.ก.เพื่อทดแทนคำสั่งหัวหน้า คสช. และขอให้สมาชิกสมาคมที่พักบูติกภูเก็ตจำนวนกว่า 80 ราย ที่เคยอยู่ในระบบ SHA+ สามารถดำเนินกิจการรับนักท่องเที่ยวได้ตามเดิม
และเร่งรัดกำชับหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการพิจารณาผู้ที่อยู่ในกระบวนการขอใบอนุญาตประเภท โฮมสเตย์และโรงแรมโดยเร่งด่วน (ลดขั้นตอนทั้ง 3 ขั้นตอน)
นอกจากนี้ พรรคไทยสร้างไทย มองว่าการแก้ไขปัญหาในระยะยาว จะต้องยกร่างกฏหมาย หรือ แก้ไขกฎหมายพรบ.โรงแรม โดยแยกเป็นโรงแรมในแต่ละประเภท ให้มีชนิดของโรงแรมอย่างหลากหลาย เพื่อให้โรงแรมแต่ละชนิดได้เข้าสู่กฎหมายได้อย่างถูกต้อง