วันที่ 13 พ.ย.2564 ที่ The Connecion Seminar Center สี่แยกรัชดา-ลาดพร้าว 469 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมด้วยแนวร่วมเครือข่ายม็อบราษฏร แถลงข่าวคัดค้านคำวินิจฉัยคดีล้มล้างการปกครองของศาลรัฐธรรมนูญ และทิศทางการเคลื่อนไหว
น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า ขอยืนยันที่จะเรียกร้อง 10 ข้อการปฏิรูปสถาบันฯ โดยการขับเคลื่อนจะเป็นไปด้วยความสันติในการชุม ถ้าจะใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา113 ดำเนินคดีกับผู้ถูกร้องนั้น จะต้องมีพฤติการณ์ประทุษร้าย ซึ่งการชุมนุมทุกครั้ง และนับจากนี้ จะเป็นไปด้วยความสงบสันติปราศจากอาวุธ แต่ก็ยอมรับว่ามีความกังวลใจบ้าง เพราะไม่รู้ว่ารัฐจะใช้เครื่องมือกลไกใดกับประชาชน ก่อนจะยืนยันว่าการเรียกร้องนั้นเป็นการปฏิรูปไม่ใช่การล้มล้างการปกครอง สำหรับทิศทางการขับเคลื่อนในอนาคต ยังคงเดินหน้าเรียกร้องต่อ แม้จะเป็นไปได้ยาก
น.ส.ปนัสยา กล่าวต่อว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกำลังปิดประตูการปฏิรูปตามข้อเรียกร้อง เชื่อว่าพลังของประชาชนจะสามารถผลักและเปิดประตูได้อีกครั้ง จนกว่าการปฏิรูปสถาบันฯจะเกิดขึ้นและสำเร็จลง โดยไม่ว่าช่องทางใดในการเสนอการปฏิรูปสถาบันฯได้ ก็จะพยามที่จะดำเนินการทั้งเวทีรัฐสภา การชุมนุม และอื่นๆ
“ขอตั้งคำถามไปถึงพรรคการเมือง และส.ส. ในฐานะผู้แทนประชาชน ที่อยู่ในระบบประชาธิปไตยว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะต้องเป็นกระบอกเสียงต่อข้อเรียกร้องของประชาชน ไม่ว่าพรรคการเมืองใดที่จะพร้อมในการขับเคลื่อนการปฏิรูปไปพร้อมประชาชน”
น.ส.ปนัสยา กล่าวถึงกรณีคำร้องยุบพรรคก้าวไกล ข้อกล่าวหาสนับสนุนผู้ถูกศาลวินิจฉัยพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองนั้นว่า การประกันตัวเป็นหน้าที่การใช้สิทธิ ส.ส. ตนมองว่าเป็นเกมการเมืองที่วางไว้นานแล้ว เพื่อออกคำวินิจฉัยมา ยุบพรรคก้าวไกล หลังยุบพรรคอนาคตใหม่ แต่ไม่อาจคาดการณ์ว่าในอนาคตคนที่ไม่ได้เห็นด้วย จะดำเนินการใดต่อไป เพื่อสกัดกั้นการเรียกร้องปฏิรูปสถาบัน
“ฝากส่งสารไปยังกลุ่มบุคคลดังกล่าวว่า เราไม่เห็นอะไรนอกจากความเห็นแก่ตัว ในการใช้อำนาจดำเนินคดี จับขัง ฟ้องร้อง กับประชาชน ยืนยันว่าจะรับฟังความเห็นต่าง เราต้องการสร้างบรรยากาศแลกเปลี่ยนทางความคิด เป็นไปไม่ได้หรือที่จะพูดคุยกันและรับฟังหาทางออกร่วมกัน เชื่อว่าเป็นไปได้แต่ต้องเริ่มขึ้นมาก่อน และหวังว่าสักวันหนึ่งผู้มีอำนาจจะรับฟังข้อเรียกร้องและเปิดใจยอมรับ หรือข้อเรียกร้องจะสำเร็จได้บ้าง
สำหรับการชุมนุม ในวันพรุ่งนี้(14พ.ย.) จะใช้สิทธิอย่างสันติ ส่วนจะรุนแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของรัฐบาลเอง” น.ส.ปนัสยา ระบุ