ม็อบ14 พ.ย.64 กลุ่มราษฎร และกลุ่มไม่เอาสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ที่ปักหลักปราศรัยอยู่ที่แยกปทุมวัน โดยแกนนำขึ้นปราศรัยโจมตีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น. แกนนำผู้ชุมนุมขึ้นประกาศเปลี่ยนจุดชุมนุมอีกครั้ง โดยจะเคลื่อนขบวนด้วยรถจักรยานยนต์ จากบริเวณแยกปทุมวัน เพื่อจะไปปักหลักชุมนุมที่สถานทูตเยอรมันแทน
ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนด้วยรถจักรยานยนต์ จากแยกปทุมวัน จะใช้เส้นทางถนนพระราม 1 ผ่านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงสี่แยกราชประสงค์ เลี้่ยวขวาผ่านหน้าโรงพยาบาลตำรวจ มุ่งหน้าถนนพระราม 4
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแผงเหล็กมาปิดกั้นที่แยกเฉลิมเผ่า โดยมีตำรวจควบคุมฝูงชน พร้อมโล่กระบองประมาณ 2 กองร้อย ตั้งแนวสกัดไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมผ่านไปหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมาถึงแยกเฉลิมเผ่า แนวหน้าเป็นการ์ดและรถจักรยานยนต์ จึงเกิดประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้สถานการณ์ตึงเครียด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องนำรถฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าประจำการด้วย
ระหว่างนั้นเกิดเหตุชุลมุน มีรายงานต่อมาว่ามีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ขณะแกนนำยังเคลื่อนขบวนไปหยุดชั่วคราวที่หน้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โดยยืนยันจะเดินเท้าไปให้ถึงสถานทูตเยอรมัน ขณะที่ขบวนรถจักรยานยนต์มาจอดรถสมทบขบวนที่แยกอังรีดูนังต์
เมื่อเวลา 17.53 น.ขบวนได้เคลื่อนมาถึงหน้าสวนลุมพินี ซึ่งมีตำรวจคควบคุมฝูงชน(คฝ.)ตั้งแถวอยู่
ทั้งนี้ ม็อบ14 พ.ย.นัดชุมนุมกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเวลา 15.00 น. เพื่อจะตั้งขบวนเดินไปสนามหลวง แต่ตำรวจตั้งตู้คอนเทนเนอร์สกัดเส้นทางรอบสนามหลวงทุกเส้นทาง จึงเปลี่ยนนัดหมายมาสี่แยกปทุมวัน และให้เคลื่อนขบวนอีกครั้งเพื่อไปสถานทูตเยอรมันดังกล่าว