วันที่ 18 พ.ย.2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังคณะนักธุรกิจจากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (American Chamber of Commerce in Thailand: AMCHAM) เข้าเยี่ยมคารวะผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ร่วมด้วยว่า การพัฒนาด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยที่เราต้องอยู่กับโรคยุคโควิดและหลังโควิด ตามมาตรการและนโยบายที่รัฐบาลได้กำหนดออกมาแล้ว
วันนี้ได้มีความคืบหน้าในหลายประการ ซึ่งตนได้ประชุมร่วมกับคณะนักธุรกิจจากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการหลายร้อยบริษัทของสหรัฐ ได้มีการพูดคุยทั้งในส่วนของวิกฤตและโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือ ซึ่งคณะนักธุรกิจจากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย พร้อมที่จะสนับสนุนประเทศไทยในการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจ
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาล รวมทั้งแนวทางของคณะทำงานในทุกๆ มิติออกไป ซึ่งเขาก็มีความพึงพอใจและรับว่าจะร่วมมือกับไทยในสิ่งอันที่ไทยจะเจริญเติบโตและก้าวหน้าไปด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประกอบการของธุรกิจข้ามชาติที่มีขนาดใหญ่และเชื่อมโยงมายังธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งวันนี้ก็มีสมาชิกของคณะนักธุรกิจจากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทยหลายบริษัทด้วยกันที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย และก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็หวังว่าจะมีการลงทุนเพิ่มมากขึ้นในปีหน้าและระยะต่อไปตามนโยบายของรัฐบาล คือการประกอบการและดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในเรื่องของภาวะโลก เศรษฐกิจใหม่ของเรา การลงทุนใหม่ๆ ตอบวาระของโลก รวมทั้งโลกร้อนเศรษฐกิจสีเขียว BCG
ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มคณะนักธุรกิจจากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย ได้สอบถามสถานการณ์ด้านอื่นๆ โดยเฉพาะสถานการณ์ทางการเมืองของไทยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่มี เขาไม่ห่วง เขาชื่นชมด้วยซ้ำไป เขาไม่พูดถึงเลย เขาชื่นชมการทำงานของรัฐบาลในการกำหนดนโยบายของนายกฯ ชื่นชม ไม่มีใครพูดถึง ผมว่าวันนี้เอาประเทศไทยให้รอดก่อน เอาเศรษฐกิจให้รอด เอาโควิดให้รอดก่อนเถอะ เพราะเรื่องอื่นๆ พอได้แล้ว เรื่องการเมืองไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอเถอะ ขอกัน”