การเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (สมาชิก ส.อบต.) จำนวน 5.3 พันแห่งทั่วประเทศในรอบ 8 ปีที่กำลังจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 08.00- 17.00 น.นี้
เมื่อลองเทียบเคียงข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้น 19,196,850 คน
ในจำนวนนี้มีอยู่ไม่น้อยที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่เดินทางออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นครั้งแรก แล้วอาจนึกอยากถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกในการออกไปใช้สิทธิเลืกตั้ง เนื่องจากประเทศไทยห่างหายจากการเลือกตั้ง อบต.มานาน แต่ทราบกันหรือไม่ว่า การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง มีโทษทั้งจำทั้งปรับได้
ข้อมูลล่าสุด กกต.ได้เผยแพร่แนวทางปฏิบัติ และข้อพึงระวังการกระทำความผิดกฎหมายในการเลือกตั้งนายก อบต.และนายก อบต.ทั่วประเทศในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 นี้ โดยข้อพึงระวังในวันเลือกตั้ง อบต. 2564 ดังเช่น
ห้ามใช้บัตรอื่นที่มิใช่บัตรเลือกตั้งที่ได้รับจากกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งนำมาออกเสียงลงคะแนน ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 20,000- 200,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี
ห้ามใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งในคูหาเลือกตั้งที่จะทำให้เห็นเครื่องหมายในช่องลงคะแนน ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ห้ามนำบัตรเลือกตั้งที่ออกเสียงลงคะแนนแล้วแสดงให้คนอื่นเห็น ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ห้ามนำบัตรเลือกตั้งใส่หีบบัตรเลือกตั้งโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือ กระทำการใดในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้ใดฝ่าฝืนระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี
รวมถึงห้ามมิให้กระทำการขัดขวางหรือหน่วงเหนี่ยวมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป, ห้ามผู้ใดซึ่งรู้อยู่แล้วว่า ตนเป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้งแต่พยายามลงคะแนนเสียง, ห้ามผู้ใดจงใจกระทำให้บัตรเลือกตั้งชำรุด หรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย และห้ามนำบัตรเลือกตั้งออกไปจากที่เลือกตั้ง เว้นแต่เป็นการกระทำตามหน้าที่ เป็นต้น
นอกจากนี้กฎหมายยัง ห้ามผู้ใดขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิดในเขตเลือกตั้ง ระหว่างเวลา 18.00 น.ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวัน (27 พฤศจิกายน 2564) จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันเลือกตั้ง (28 พฤศจิกายน 2564) หากฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ทั้งยังห้ามหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการใด รวมถึงวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครนับตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวัน (27 พฤศจิกายน 2564) จนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง (24.00 น. ของวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564)
และห้ามผู้สมัครจัดยานพาหนะนำผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังที่เลือกตั้งเพื่อการเลือกตั้ง หรือนำกลับจากที่เลือกตั้ง หรือจัดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปหรือกลับเพื่อการออกเสียงลงคะแนน โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือค่าจ้าง
นอกจากนี้ หากผู้ใดเล่นหรือจัดให้มีการเล่นการพนันขันต่อใด ๆ เกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้เล่นมีกำหนด 10 ปี และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้จัด ให้มีการเล่น
ถ้าเป็นการกระทำของผู้สมัคร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัคร รับเลือกตั้งของผู้สมัครผู้นั้น
ทั้งนี้ หากพบเห็นการทุจริตเลือกตั้ง สามารถแจ้งเบาะแสได้ทางแอปพลิเคชัน "ตาสับปะรด" หรือแจ้งเหตุได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2141 8860 ,0 2141 8579 และ 0 2141 8859 หรือศูนย์บริการสายด่วนเลือกตั้ง 1444