พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19(ศบศ.) ถึงช่วงที่เหมาะสมในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.) ที่จะเป็นสนามเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า ต้องดูสถานการณ์ที่เหมาะสม คือความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ความขัดแย้งต่างๆ ต้องลดลง
เพราะสิ่งที่เป็นห่วงคือ ความมั่นคงและความมีเสถียภาพของบ้านเมืองมาก่อน เมื่อมีความพร้อมก็เลือกตั้งไป ซึ่งก็สุดแล้วแต่ ให้ไปถามคนเกี่ยวข้องว่าบ้านเมืองสงบเรียบร้อยเมื่อใดก็พร้อมเลือกตั้ง โดยสนามการเลือก กทม. จะเกิดในปี 2565 ซึ่งสถานการณ์ต้องมีความพร้อมสงบเรียกร้อยต่อยตีกันไปไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น
ส่วนที่ตนมักจะย้ำถึงการเป็นนายกฯ ในกรอบกฎหมายนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนยังเป็นรัฐบาลอยู่ไม่ใช่เหรอ
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าหมายถึงอยู่ถึงมี.ค.2566 ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ก็ใช่นะสิ กรอบกฎหมายเขียนไว้อย่างนั้น จะอยู่ถึง 67 ได้เหรอ ก็ต้อง 66 ถ้าบ้านเมืองสงบสุขเราก็อยู่ให้ครบวาระไป อย่าให้มีอุบัติเหตุทางการเมือง อะไรขึ้นมาให้มันเสียหาย ให้บ้านเมืองไปได้ เพราะผมก็ทำอะไรหลายอย่างไว้แล้ว ไม่ใช่ทำเพื่อคะแนนเสียงของผม แต่ทำให้ประชาชนและประเทศชาติ มีแผนงานอนาคตไว้เยอะแยะไปหมดก็ลองเปรียบเทียบดูก็แล้วกัน”
ถามว่ามีความตั้งใจจะอยู่ให้ครบวาระใช่หรือไม่ นายกฯ ไม่ตอบคำถามเพียงถอนหายใจ
ขณะที่วันนี้ถือเป็นนักการเมืองแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องเป็น เพราะเป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งก็ต้องเป็นนักการเมืองและเป็นอดีตทหารเกษียณ แล้วจะให้ต้องตัดยศออกหรืออย่างไร เป็นยศที่พระราชทาน
ส่วนหากเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้วมีโอกาสไปลงเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ต้องว่ากันเรื่องของอนาคต”
เมื่อถามย้ำว่าเมื่อเป็นนักการเมืองแล้วมีโอกาสลงเลือกลงเลือกตั้งเขตโคราชบ้านเกิดหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “เลอะเทอ ก็บอกว่ายังไม่ถึงเวลาอย่าเพิ่งถามตอนนี้”
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า วันนี้นายกฯ อารมณ์ดีตอบคำถามสื่อมวลชนในทุกประเด็น พร้อมย้ำกับสื่อมวลชนว่า “นายกฯ ใจดีไหมล่ะ เป็นคนอารมณ์เย็น”