ผ่าโมเดลแลนด์สไลด์ฉบับ“ทักษิณ ชินวัตร”

16 ธ.ค. 2564 | 22:35 น.

ผ่าโมเดลแลนด์สไลด์“ทักษิณ ชินวัตร” เป้าพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ต้องได้ ส.ส. 253 ที่นั่งขึ้นไป ถึงจะปิด 250 ส.ว.ได้ : รายงานพิเศษ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3741

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งกับปรากฏการณ์ “เลือดเก่า ไหลกลับ” พรรคเพื่อไทย หลังจากก่อนหน้านี้มี ส.ส.-อดีต ส.ส. ทยอยถอยออกมาจากรังเก่าที่เคยอยู่ อู่ที่เคยนอน เป็นปรากฏการณ์ที่บรรดานักการเมืองวิเคราะห์เจาะลึกกันว่าเกิดอะไรขึ้นในพรรคเพื่อไทย

 

ก่อนเลือกตั้งเมื่อ 24 มี.ค.2564  เกิดปรากฏการณ์ “แตกแบงก์พัน” มีส.ส.-อดีต ส.ส. แยกไปตั้งพรรคใหม่ ซึ่งรับรู้กันว่าเป็นสาขาของพรรคเพื่อไทย และได้เห็นส.ส.เกรด A ของพรรคเพื่อไทย ทยอยออกไป 

แต่ตอนนี้นโยบาย “นายใหญ่-ทักษิณ ชินวัตร” ต่อการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไปนี้ ต้อง “แลนด์สไลด์” เท่านั้น

 

“ผมมีหลายแนวทาง รับรองว่าแต่ละแนวทางเนี่ย ส.ส.ที่คิดจะออก รับตังค์เขามาแล้ว ต้องเอาตังค์ไปคืน เที่ยวนี้ต้องชนะแลนด์สไลด์ เพราะว่าชนะธรรมดา มันไม่ให้เป็นรัฐบาลหรอก ถ้าแลนด์สไลด์มันไม่กล้าเป็นรัฐบาล ต้องเอาแลนด์สไลด์ชนิดที่ไม่กล้าเป็นรัฐบาล”  นั่นคือคำพูดของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ  “นายใหญ่แห่งดูไบ” ของพลพรรคเพื่อไทย ที่ได้วิดีโอคอลเข้ามาพูดคุยในงานเลี้ยงวันเกิดเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางส.ส.และผู้บริหารพรรคจำนวนมาก ที่อยู่ในงาน เมื่อ 12 ต.ค.2564


ความจริงคำว่า “แลนด์สไลด์” ที่หมายถึงการเลือกตั้งส.ส.ที่จะเกิดขึ้นครั้งต่อไปนี้ “พรรคเพื่อไทย” ของ ทักษิณ ชินวัตร จะต้องชนะแบบ “ถล่มทลาย” ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก 

 

ก่อนหน้านั้นช่วงกลางเดือน มิ.ย.2564 ทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี วู้ดซั่ม ก็เคยพูดในคลับเฮาส์ ถึงคำว่า “ต้องชนะแลนด์สไลด์” มาแล้วว่า “ถ้ามีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ ต้องเลือกผู้นำของตัวเอง อย่างจริงจัง ถ้าเลือกกระจาย 250 ส.ว.ก็กดปุ่มปั๊ป สมมติว่า นาย ก. เหมาะมาก เทไปเลย เต็มที่เลย เป็นสัญญาณว่า ประชาชนจะเอาแบบนี้ จะได้เปลี่ยน แปลงได้ ถ้าเป็นเบี้ยหัวแตกก็เปลี่ยนแปลงยาก”

 

แลนด์ไลสด์ 253 ที่นั่งอัพ

 

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พูดถึงเป้าหมายแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย ไว้เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2564 ว่า “เราตั้งเป้าหมายว่าเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ต้องได้ ส.ส. 253 ที่นั่งขึ้นไป ถึงจะปิด 250 ส.ว.ได้ เราพร้อมที่จะรับผู้ที่มีอุดมการณ์และเจตนารมณ์เช่นเดียวกันกับพรรค คนที่มาต่างตอบรับด้วยความเต็มใจในทางยุทธศาสตร์ทางประชาธิปไตย ถ้าเราไม่รวมกัน เราสู้เขาไม่ได้” 

 

“โมเดล” ดังกล่าวของ “นายใหญ่ทักษิณ” เราจึงได้เห็นอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย เริ่มไหลกลับบ้านเก่าเพื่อไทย 

 

ทีมแรก “จาตุรนต์ ฉายแสง” และพี่น้องตระกูลฉายแสง แห่งฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย อดีต ส.ส. เพื่อนพ้อง นปช. พากันหอบหิ้วกันกลับถิ่นเก่า ทั้ง ฐิติมา ฉายแสง วุฒิพงษ์ ฉายแสง เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ ก่อแก้ว พิกุลทอง นพ.เหวง โตจิราการ นิคม ไวยรัชพานิช วีระกานต์ มุสิกพงศ์ ประภัสร์ จงสงวน ปิดฉาก "พรรคเส้นทางใหม่”

 

ตามมาด้วย “สามารถ แก้วมีชัย” อดีต ส.ส.เชียงรายหลายสมัย ที่ก่อนหน้านี้ได้ ถอยออกจากเพื่อไทย ไปร่วมสร้างพรรคไทยสร้างไทย ของ คุณหญิงหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็กลับบ้านเก่า

                                               สามารถ แก้วมีชัย บินไปพบ ทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ดูไบ

 

เป้าหมายดูดส.ส.กลับ

 

นอกจากนั้นยังมีหลายกลุ่มหลายคน ที่อยู่ในเป้าหมาย  “ดูด” กลับ ไม่ว่าจะเป็น  วิชิต ปลั่งศรีสกุล, นพ.ประจวบ อึ้งภากรณ์, กลุ่มบ้านใหญ่เมืองมหาชัย ของ “เฮียม้อ” มณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ ที่มีโอกาสอำลาพรรคชาติไทยพัฒนา กลับมาเพื่อไทยเช่นกัน 

 

เพราะหลังจากเลือกตั้งสมัยที่แล้ว “เฮียม้อ” ตัดสินใจไปอยู่พรรคชาติไทยพัฒนา ตามคำร้องขอของบ้านใหญ่สะสมทรัพย์ นครปฐม ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางประการ แต่ไม่ได้มีปัญหาใดๆ กับคนแดนไกล แต่ผลเลือกตั้ง ทีมผู้สมัคร ส.ส.ในสังกัดพ่ายแพ้เรียบ

 

เป้าหมายของคนที่จะดึงกลับยังอาจจะมี บ้านใหญ่นครปฐม (สะสมทรัพย์ บางส่วน), ทีมแปดริ้ว (บางส่วน),  กลุ่มสามมิตร, กำแพงเพชร (วราเทพ รัตนากร), วิรัช รัตนเศรษฐ, กลุ่มยงยุทธ ติยะไพรัช, วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล, กลุ่มสมุทรปธาการ ประชา ประสพดี สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ 

                                    ผ่าโมเดลแลนด์สไลด์ฉบับ“ทักษิณ ชินวัตร”

ลดบทบาทกลุ่ม CARE

 

ตอนนี้มีความพยายามที่จะดำเนินการบางอย่าง บอกว่าฝ่ายที่ดึงกลับมา นี่คือฝ่ายของประชาธิปไตย และปรากฏการณ์ว่าด้วยเรื่องของเพื่อไทย 250 ที่นั่ง เป็นปรากฏการณ์ที่น่าจับตามองว่า ใครคือคนที่เป็นมือใหญ่ เบอร์ใหญ่ ที่จะดึงคนที่เดินออกจากพรรคให้กลับเข้ามาในพรรคเพื่อไทย 

 

และต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ใหม่ เพราะยุทธศาสตร์ตอนนี้ที่วางไว้คือการลดบทบาทของกลุ่ม CARE ลง กลุ่มนี้เป็นกลุ่มยุทธศาสตร์กำหนดวางบทบาทและวิธีการเดินการเมือง ถ้าลดบทบาทกลุ่มนี้จะไปเพิ่มอำนาจให้กับ 3 ขุนพล

 

สาเหตุที่ต้องลดบทบาทกลุ่ม CARE หลายคนที่ออกจากเพื่อไทยขัดแย้งกับกลุ่ม CARE เพราะ 1.กลุ่ม CARE รวมอำนาจในการกำหนดยุทธศาสตร์ 2.แนวคิดกลุ่ม CARE ใกล้เคียงกับพรรคก้าวไกล-กลุ่มก้าวหน้า ไม่แตกต่าง 3.แนวคิดกลุ่ม CARE ออกซ้ายสุดยากต่อการเข้าสู่อำนาจตั้งรัฐบาล

 

เพิ่มบทบาท 3 ขุนพล

 

ลดบทบาทกลุ่ม CARE แล้วไปเพิ่มจุดแข็งให้กับ 3 ขุนพลของพรรคเพื่อไทยได้แก่ 

 

1.พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรมว.พลังงานในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งถือเป็นสายตรง ถึงตัว ถึงครอบครัว "ชินวัตร" ทุกสาย รักษาคำพูดประสานสิบทิศ ดึงคนกลับพรรคได้

 

2.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีตรมช.ศึกษาธิการ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย และ ส.ส.เลย ถือเป็น ถุงเงิน พึ่งได้ คำไหนคำนั้น

 

3.เกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็น นักรบ ใจถึงเจาะเขตเก่ง

 

กลุ่มนี้ทั้งกลุ่มเป็นกลุ่มที่ยืดหยุ่นประสานงานได้ในการเข้าไปสู่อำนาจและตอบโจทย์การเข้าสู่อำนาจและเป็นรัฐบาลได้

                                                 ผ่าโมเดลแลนด์สไลด์ฉบับ“ทักษิณ ชินวัตร”

 

“ก้าวไกล”ขวางหนามใหญ่

 

ว่ากันว่าคนที่จะเดิมตามออกไปอยู่กับ “พรรคไทยสร้างไทย” ตอนนี้ล้วนหวั่นไหว เพราะพรรคเพื่อไทยตั้งกองบัญชาการอยู่ที่ “ดูไบ” มี “นายใหญ่” เช็คชื่อ ตอนนี้มีทัวร์ดูไบ ใครไปดูไบตอนนี้อ้างได้ว่าไปดูงาน แต่จริงๆ แล้วอาจไปทำอย่างอื่น กลับมา “กระเป๋าตุง” กันทุกคน เขาบอกว่าจัดทัวร์โดย “เสี่ย พ.”

 

แต่เป้าหมายส.ส. 250 ขึ้นไป จะสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่ขวากหนามสำคัญคือ พรรคก้าวไกล เพราะฐานเสียงของ 2 พรรคนี้อยู่ในฝั่งเดียวกัน ถ้าต้องการ “แลนด์สไลด์” ต้องไปลดให้ “ก้าวไกล” ได้ส.ส.น้อยที่สุด 

 

เพราะฉะนั้นแนวคิดถ้าไม่รวมกัน ไม่มีทางชนะ จะต้องไปจัดการฐานคะแนนของก้าวไกล แนวทางของพรรคเพื่อไทยที่ไปตอบโจทย์และสามารถดึงพลังจาก “ก้าวไกล” มาเป็นฐานของตัวเอง 

 

นอกเหนือจากส.ส.เขตแล้ว หัวใจสำคัญคือ การปรับคน ปรับยุทธศาสตร์ให้โดนใจ “คนรุ่นใหม่” ด้วย

 

ยุทธศาสตร์ “แลนด์สไลด์” ของ ทักษิณ ชินวัตร จะมีหมัดเด็ดอะไรออกมาอีกหรือไม่ ต้องจาตาดูกันต่อไป