ประชุมสภาล่มซ้ำซาก ฝ่ายค้านโต้รัฐบาล ไม่รักษาองค์ประชุม

วันที่ 17 ธ.ค.2564 มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม หลังจากเปิดให้ส.ส.ถึงปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชน ได้เข้าสู่การพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบ ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานกมธ.ฯ พิจารณาแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ในการพิจารณาดังกล่าวเป็นขั้นตอนของการลงมติว่าจะเห็นชอบรายงานเพื่อส่งต่อไปยังรัฐบาลให้ดำเนินการหรือไม่ อย่างไรก็ดีก่อนการลงมติต้องตรวจสอบองค์ประชุมแต่พบว่า ส.ส.ของฝั่งรัฐบาลมีจำนวนไม่พอที่จะเป็นองค์ประชุม ขณะที่ส.ส.ฝ่ายค้านซึ่งอยู่ในห้องประชุม ไม่กดบัตรแสดงตนทำให้นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ขอหารือว่า ตนขอตำหนิ ส.ส.ที่ขี้เกียจ ไม่มาประชุม ตอนเลือกตั้งอยากได้รับเลือกเป็นส.ส. แต่พอเป็นส.ส. กลับไม่มาประชุม ดังนั้นขอให้ประธานเคร่งครัดด้วยว่าหาลาประชุมเกิน 4 ครั้ง ให้พ้นสมาชิกภาพ และหากลงชื่อเกินเวลา 09.30 น. ให้ถือว่ามาทำงานสาย และหากสายเกิน 5 - 10 ครั้งให้ตัดเงินเดือน อย่างไรก็ดีคนที่ไม่มาทำงาน ขอประชาชนอย่าเลือกเข้ามาให้กินเงินเดือนส.ส. และต้องการประกาศรายชื่อให้ทราบด้วย

ขณะที่วิปรัฐบาลได้ร้องขอให้เวลาเพื่อรอสมาชิกเข้าห้องประชุมด้วยทำให้นายศุภชัย กล่าวขึ้นว่า “หากองค์ประชุมไม่ครบ ก็ล่มอีก อายชาวบ้าน จากการเช็คชื่อประชุมมีทั้งหมด 260 คน หากส.ส.ที่ยู่ในห้องประชุมช่วยกดบัตรตรวจสอบองค์ประชุมช่วยๆกัน ครบแน่ๆ ทั้งนี้ส.ส.มาประชุมครบองค์ประชุม แต่บางครั้ง ส.ส.แสดงความจำนงไม่เช็คองค์ประชุมให้ ถือเป็นสิทธิของส.ส.”ทำให้ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นตอบโต้ โดยนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า “พวกเราอยู่ในห้องประชุม ส่วนองค์ประชุมเป็นความรับผิดชอบของส.ส.รัฐบาล” ทำให้นายศุภชัย กล่าวตอบว่า “ในข้อบังคับการประชุมไม่ระบุว่าองค์ประชุมเป็นของฝ่ายใด ดังนั้นถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของส.ส.ทุกคน” ระหว่างนั้นได้กดสัญญาณเพื่อเรียกสมาชิกเข้าห้องประชุมทำให้ส.ส.เพื่อไทย กล่าวขึ้นว่าให้ รีบตัดสินใจ ทำให้นายศุภชัย กล่าวว่า “จะรอจนกว่าจะครบองค์ประชุม จากนั้นได้ใช้อำนาจของประธานที่ประชุม สั่งพักการประชุม 30 นาที”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาฯ ได้พักการประชุมไป หลังจากที่เข้าสู่ระเบียบวาระได้เพียง 13 นาที เท่านั้น

ต่อมาเวลา 11.25 น.กลับมาประชุมอีกครั้ง และกดออดเรียกสมาชิก น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้เช็คองค์ประชุมแบบขานชื่อ ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย สนับสนุน และยังกล่าวว่าการรรักษาองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของส.ส.ฝั่งรัฐบาล

จากนั้น น.ส.รังสิมา ลุกขึ้นอีกครั้ง ระบุว่า รู้สึกไม่สบายใจที่นายจุลพันธ์เห็นว่าองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของส.ส.รัฐบาลเท่านั้น ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะความจริงการรักษาองค์ประชุมเป็หน้าที่ของส.ส.ทุกคน ทุกฝ่าย ต่อมานายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ตอบโต้ว่า อยากให้น.ส.รังสิมานึกถึงตอนที่เป็นฝ่ายค้าน และพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายรัฐบาล ในเวลานั้นพรรคเพื่อไทยโดนฝ่ายค้านขอนับองค์ประชุมวันละห้าครั้ง เรื่องวอล์กเอ้าท์กลายเป็นเรื่องปกติ

จากนั้นเวลา 11.39 น. ได้ให้สมาชิกแสดงตน ผ่านไป 11 นาที นายศุภชัยแจ้งผลการนับองค์ประชุม ปรากฎว่ามีเพียง 235 คน จากสมาชิกทั้งหมด 476 คน ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ถือว่าองค์ประชุมไม่ครบ นายศุภชัยจึงสั่งปิดประชุมในเวลา 11.50 น.