ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีคลัง และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แสดงความไม่เห็นด้วย ที่รัฐบาลจะยืดเวลาการได้รับบำนาญของลูกจ้างเอกชน ในระบบประกันสังคม โดยให้เหตุผลดังนี้
(1) รัฐบาลกำลังเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัญญาประชาคม ที่มีมายาวนาน เนื่องจากรัฐบาลเอาเงินประกันสังคมไปใช้ในทางอื่น ซึ่งอาจผิดประเภท และอาจไม่ถูกกฎหมาย และรัฐบาลก็เอาเงินงบประมาณไปใช้ในทางอื่น ไม่ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฯ ตามกฎหมาย ตอนนี้ยังค้างส่งเงินสมทบ เป็นจำนวนมาก ถึงกว่า 73,000 ล้านบาท โดยปัจจุบัน กองทุนประกันสังคม มีเงิน 2.36 ล้านๆ บาท
(2) การจ้างพนักงานบริษัทและจ้างแรงงาน ไม่เหมือนการเป็นข้าราชการ นายจ้างจำนวนมาก มักให้พนักงานและคนงานเกษียณอายุเพียง 55 ปี เพราะต้องการคนใหม่ที่เด็กกว่า ทำงานได้เร็วกว่า และค่าจ้างถูกกว่า...
(3) คนที่ถูกเกษียณอายุ 55 ปี โดยการเลิกจ้าง จะมีความยากลำบาก จะไม่ได้บำนาญจากกองทุนประกันสังคม แม้ส่งเงินสมทบครบ 180 เดือนหรือ 15 ปีแล้ว และไม่เคยขาดส่งฯ เพราะอายุยังไม่ถึง 60 ปี และอาจจะเริ่มขาดการส่งเงินเข้ากองทุนฯ เพราะถูกออกจากงานตอน 55 ปี แล้วหางานใหม่ไม่ได้ อาจต้องไปขายหมูปิ้ง ลูกชิ้นยืนกิน เพื่อนำเงินมาส่งประกันสังคม อีกกว่า 5 ปี จนอายุถึง 60 ปี จึงจะได้บำนาญ
(4) รัฐบาลเป็นลูกจ้างประชาชน เพื่อจัดการกิจกรรมส่วนรวมของสังคม มีหน้าที่ดูแลประชาชนให้มีชีวิตที่ดีขึ้น การที่รัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงสัญญาประชาคม แล้วทำให้ชีวิตประชาชนแย่ลง รัฐบาลคิดแบบนี้ได้อย่างไร ดร.สุชาติ กล่าวในที่สุด