วันนี้(24 ธ.ค.64) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงหลายราย
โดยรายชื่อที่น่าสนใจคือ นายวิรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กรณีดำรงตำแหน่งครบ 3 ปี เป็นกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ “ปตท.สผ.” กรรมการสภามหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กรรมการดำเนินการปฏิรูปกฎหมายระยะเร่งด่วน กรรมการบูรณาการเพื่อพัฒนาความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางสังคม และกรรมการในอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการเกี่ยวกับการขับเคลื่อนระบบราชการเพื่ออนาคต
นายวิรไท สันติประภพ แจ้งสถานะว่า “โสด” มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 175,535,607 บาท ได้แก่ เงินฝาก 6,239,800 บาท เงินลงทุน 110,338,324 บาท ที่ดิน 9,390,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 20.2 ล้านบาท ยานพาหนะ 5.3 แสนบาท สิทธิและสัมปทาน 28,487,482 บาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 3.5 แสนบาท ไม่มีหนี้สิน
มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 10.2 ล้านบาท แบ่งเป็น เบี้ยประชุม ค่าตอบแทน 3.7 ล้านบาท เงินบำเหน็จกรรมการ 5.7 ล้านบาท มีรายจ่ายรวมต่อปี 5,430,000 บาท แบ่งเป็น ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 2.4 ล้านบาท ค่าจ้างคนขับรถและลูกจ้าง 3.8 แสนบาท เสียภาษีเงินได้ 2,550,000 บาท เงินบริจาค 1 แสนบาท รวมถึงแจ้งเงินได้พึงประเมิน ตามประมวลรัษฎากร ตามข้อมูลการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา 13,220,000 บาท
ส่วนทรัพย์สินที่น่าสนใจ นายวิรไท แจ้งถือครองเงินฝากในธนาคารต่างประเทศ 3 รายการ ได้แก่
1.Bank-Fund Staff Federal Credit Union 2 รายการ รวมวงเงิน 9,618.71 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 326,045 บาท) และ Interactive Brokers 1 รายการ วงเงิน 80,193.56 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2,718,321 บาท) นอกจากนี้ยังมีเงินลงทุนในกองทุนหุ้นของไทย เอกชนยักษ์ใหญ่ รวมถึงกองทุนในต่างประเทศอีกหลายรายการ
มีโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 หลัง มูลค่ารวม 20.2 ล้านบาท ได้แก่ อาคารชุดสลิลธารา คอนโดมีเนียม มูลค่า 13 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวตึก 3 ชั้นพร้อมเรือนพัก ที่ จ.เชียงใหม่ ระบุว่าก่อสร้างเอง มูลค่า 7.2 ล้านบาท
ขณะเดียวกันแจ้งถือครอง พระพุทธรูป ยืนสำริด สมัยอยุธยา 1 รายการ มูลค่า 3.5 แสนบาท
ทั้งนี้ นายวิรไท เป็นผู้ว่าฯ ธปท. คนที่ 20 ต่อจาก นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล โดยชื่อของ นายวิรไท ถูกยกย่องในเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และเรื่องค่าเงินบาทของไทยอย่างมาก
ขณะเดียวกันยังเคยมีกระแสข่าวในแวดวงการเมือง ถูกยกเป็นหนึ่งในรายชื่อแคนดิเดต “นายกฯคนกลาง” ในช่วงเวลาที่ผ่านมาหลายครั้งด้วย รวมถึงเคยถูกทาบทามให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหลายครั้ง แต่เจ้าตัวปฏิเสธไม่ขอทำงานทางการเมือง