วันนี้ (7 ม.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลรัฐธรรมนูญ ว่า สำนักงาน กกต.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและสั่งยุบพรรคไทรักธรรม ในความผิดตามมาตรา 92 (3) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กรณีให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด เพื่อจูงใจบุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมือง
ทั้งนี้กรณีดังกล่าว กกต.ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า พรรคไทรักธรรม มีการซื้อเสียงในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา แต่เมื่อตรวจสอบแล้วกลับพบว่าเป็นการจูงใจด้วยทรัพย์สินเพื่อให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งก่อนหน้านี้ กกต.ได้มีมติดำเนิดคดีอาญาไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังพบว่าในการยื่นขอรับการสนับสนุนเงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมืองปี 2564 ซึ่งมาตรา 83 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดหลักเกณฑ์การคำนวนเงินเพื่อจัดสรรหาให้กับพรรคการเมือง โดย (4) ให้ใช้จำนวนสาขาพรรคการเมืองมาเป็นเกณฑ์ด้วยนั้น
ปรากฏว่า หลังพรรคไทรักธรรม ได้แจ้งข้อมูลจำนวนสาขาพรรคของปี 2563 ต่อ กกต. ว่ามีสาขาพรรคกว่า 100 แห่ง ถือว่ามากกว่าทุกพรรคการเมือง และเมื่อกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมืองมีมติอนุมัติวงเงินสนับสนุนไปแล้ว พรรคไทรักธรรม กลับมีหนังสือแจ้งขอยกเลิกสาขาพรรคจำนวน 79 สาขามายัง กกต. ทั้งที่เจตนารมณ์ของการจัดสรรเงินกองทุนฯ ที่กฎหมายกำหนดต้องการให้พรรคการเมืองนำเงินที่ได้ไปบำรุงสาขาพรรค
จึงเห็นว่าการที่พรรคขอยกเลิกสาขาหลังได้รับอนุมัติเงินอุดหนุนแล้วถือว่ามีเจตนาไม่บริสุทธิ์
สำหรับพรรคไทยรักธรรม เป็นพรรคการเมืองขนาดเล็กมี ส.ส. 1 คน คือ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค เป็นพรรคที่อยู่ฝ่ายรัฐบาล