วันที่ 7 มกราคม 2565 ที่อาคารศรีเกียรติพัฒน์ องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(รมช.มท.) เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมการสนับสนุนรถพยาบาล (รถตู้) พร้อมครุภัณฑ์ ทางการแพทย์แก่หน่วยปฏิบัติการ โดยมีนายวงศกร นุ่นชูคันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายนิพนธ์ กล่าวว่า จังหวัดสงขลาเล็งเห็นและให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน จึงสนับสนุนรถพยาบาล(รถตู้) พร้อมครุภัณฑ์ทางการแพทย์แก่หน่วยปฏิบัติการ ซึ่งแผนยุทธศาสตร์ระบบการแพทย์ฉุกเฉิน 20 ปี เน้นการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินแบบครบวงจรและเป็นไปตามเจตนารมณ์แห่งพ.ร.บการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ.2551 และพ.ร.บกําหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอํานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) พ.ศ.2542 โดยการบูรณาการกับเครือข่ายทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ได้คุณภาพมาตรฐาน และสามารถเข้าถึงเหตุได้อย่างรวดเร็ว ทันท่วงที ลดอัตราการเสียชีวิตและความพิการ
ทั้งนี้ อบจ.สงขลา ได้ให้การสนับสนุนทั้งด้านพัฒนากําลังคน พัฒนางาน และพัฒนาระบบบริการ ให้แก่ อปท. มูลนิธิ สมาคมฯ กู้ภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดจนการสนับสนุนรถพยาบาลฉุกเฉิน พร้อมครุภัณฑ์ทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2548
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ตนได้สนับสนุนส่งมอบรถตู้พยาบาลฉุกเฉินฯ ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็นนายก อบจ.สงขลาปี 2562 จำนวน 10 คัน ในปี 2563 จำนวน 10 คัน และปี 2564 จำนวน 30 คัน ส่งผลให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบเหตุฉุกเฉินได้สูงขึ้นครอบคลุมทุกพื้นที่ในจังหวัดสงขลา สร้างความเท่าเทียมและทั่วถึงในการเข้าสู่การให้บริการของภาครัฐต่อประชาชน ในด้านการบริการสาธารณะโดยเฉพาะการแพทย์ฉุกเฉินของจังหวัดสงขลา ซึ่งปัจจุบันมีอายุการใช้งานมากกว่า 12 ปี ซึ่งประสิทธิภาพในการให้บริการฉุกเฉินลดลง และต้องซ่อมแซมส่งผลให้การบริการขาดความต่อเนื่อง
“ต้องขอบคุณองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ที่เห็นความสำคัญและความจำเป็นในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จัดรถพยาบาลพร้อมครุภัณฑ์ทางการแพทย์แก่หน่วยปฏิบัติการ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินให้ทั่วถึง โดยร่วมบูรณาการความร่วมมือกับ อปท. ทีมกู้ชีพและกู้ภัยในสงขลา สำหรับใช้รถพยาบาลรับ-ส่งผู้ป่วย ผู้ประสบอุบัติเหตุฉุกเฉินไปยังสถานพยาบาล ได้ทันท่วงทีให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในจังหวัดสงขลา
และสร้างเครือข่ายในการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ และคุณภาพตามมาตรฐานสากล และในอนาคตหวังว่ากู้ชีพ-กู้ภัยจะมีการพัฒนาไปพร้อมๆกัน เพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากปัญหาอุบัติเหตุทางถนนให้ได้มากที่สุด” นายนิพนธ์ กล่าว