“วัชระ”ชงปปช.ฟัน"จนท.รัฐ-เอกชน"ส่อทุจริตรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย

วันนี้ (7 ม.ค.65) ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ร้องเรียนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแค เฉพาะช่วงถนนจรัญสนิทวงศ์ 13 ถึงบางแค ยื่นหนังสือผ่านเจ้าหน้าที่งานสารบรรณ ชี้แจงและให้รายละเอียดต่อ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ  ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่า มีความประสงค์จะกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐคือ นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และพนักงาน รฟม. คนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 

โดยให้กันพนักงาน รฟม. ชั้นผู้น้อยเป็นพยาน ข้าราชการกรุงเทพมหานครและข้าราชการคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้มีหน้าที่ในการตรวจรับงานคืนสภาพถนนตลอดแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแค เฉพาะช่วงถนนจรัญสนิทวงศ์ 13 ถึงบางแค 

ทั้งนี้ ป.ป.ช.ต้องขอคำสั่งและรายละเอียดจากปลัดกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บังคับบัญชา ต้องมีส่วนรับผิดทางกฎหมายสูงสุดด้วย โดยขอให้กันข้าราชการชั้นผู้น้อยเป็นพยาน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ขณะเซ็นสัญญาและขณะส่งมอบงาน ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. ที่ต้องเรียกเอกสารที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานต่าง ๆ โดยด่วนที่สุด

สำหรับพฤติการณ์ในการกระทำความผิด ให้ ป.ป.ช. ขอหนังสือสัญญาการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินฯ มาตรวจสอบว่า บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างได้ส่งมอบการคืนพื้นที่สภาพถนนให้เป็นไปตามสัญญาหรือไม่ 

กล่าวคือ ตามสัญญาต้องส่งมอบถนนในสภาพเดิมคือ ถนนคอนกรีตให้กับ กทม.แต่บริษัทผู้รับเหมากลับส่งมอบงานเป็นถนนลาดยางให้ ถนน 6 ช่องจราจรความยาวประมาณ 9 กม.ซึ่งไม่เป็นไปตามสัญญา ทำให้กทม.ได้รับความเสียหาย และประชาชนเสียประโยชน์ ซึ่งไม่ปฏิบัติตามสัญญา เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนไม่ต้องทำการเทถนนคอนกรีตคืนผิวถนนให้ในสภาพเดิม ซึ่งถนนคอนกรีตมีราคาแพงกว่าการลาดยางเป็นอย่างมาก การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) , กรุงเทพมหานคร และบริษัทผู้รับเหมาฯ จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 

ในส่วนพยานหลักฐานสนับสนุนคำกล่าวหา มีภาพถ่ายถนนลาดยางตลอดแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินฯ ได้ส่งมาพร้อมกับหนังสือร้องเรียนฉบับลงวันที่ 25 พ.ย.64 แล้ว พร้อมกันนี้ได้ส่งพยานเอกสารเพิ่มเติมคือ ภาพถ่ายนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร กำลังยืนชี้ถนนลาดยางของบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นการผิดสัญญาการก่อสร้างอย่างชัดเจน จึงขอให้เรียกนายวิลาศมาเป็นพยานบุคคลโดยด่วนต่อไปด้วย 

นายวัชระ กล่าวว่า ไม่ได้ร้องเรียนเรื่องนี้ไปยังหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ เนื่องจากเชื่อมั่นในการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์สุจริตและรวดเร็วของ ป.ป.ช. แต่หาก ป.ป.ช. ละเว้น หรือ สอบสวนไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก็ขอสงวนสิทธิ์ที่จะนำคดีไปฟ้องร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไป