วันนี้(30 ม.ค.65) ที่ ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงบ้านหนองแวงแก้มหอม ต.ไชยวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ในฐานะ "ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นไทย" นางนิตยา นาโล อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน พบปะกับพี่น้องชาวอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียงที่เคยเดินทางไปทำงานต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศซาอุดิอาระเบีย
โดยมี นายทศวรรษ บุตรวงค์ ผู้ใหญ่บ้านหนองแวง ต.ไชวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี นางเดชไพวรรณ ชนูนันท์ ผู้บ้านกลางน้อง ต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี และ นายโกมล พินิจมนตรี นายกเทศมนตรีตำบลหนองแวงแก้มหอม พร้อมคณะร่วมกิจกรรม ซึ่งทุกคนดีใจที่ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือ "นายกฯ ลุงตู่" รื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย และ ซาอุดีอาระเบีย ในรอบกว่า 30 ปี
คาดว่าจะมีการส่งเสริมความร่วมมือในมิติต่างๆ ทั้งในมิติการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ และ สังคม รวมไปถึงเรื่องการเปิดโอกาสให้แรงงานไทยกลับเข้าไปทำงานได้ในอดีตที่นำเงินกลับเข้าสู่ครอบครัวและประเทศไทยมหาศาล
นายอานนท์ แสนน่าน เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองพร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่พบปะพี่น้องที่เคยไปทำงานต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศซาอุดิอาระเบีย ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ อำเภอหนองหาน อำเภอไชยวาน และ อำเภอเพ็ญ ทุกคนอยากฝากความรักและความคิดถึง พร้อมกับ "คำขอบคุณ" ไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ หรือ “นายกฯ ลุงตู่” ที่จะให้แรงงานชาวจังหวัดอุดรธานีและชาวอีสานไป "ขุดทอง" ไปทำงานยังประเทศซาอุดิอาระเบียอีกครั้ง
“เหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา ที่พ่อแม่พี่น้องลุงป้าน้าอาเคยไปทำงานสร้างฐานะร่ำรวยมาจนถึงปัจจุบันนี้ เพราะประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศที่ร่ำรวย ค้าน้ำมัน ค่าเงินสูง เปรียบแล้วก็คือไปขุดทองเหมือนสมัยก่อน ประชาชนหลายคนจึงอยากไปทำงาน ถือได้ว่าเป็นข่าวดียิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่ 1 อีก ที่ท่าน "นายกฯ ลุงตู่" ที่จะมอบโอกาสให้กับชาวอีสานและชาวไทยทั้งประเทศ ตนขอเป็นตัวแทนชาวอุดรธานีและชาวอีสานอยากขอบคุณอีกครั้งหนึ่งที่ท่าน "นายกฯ ลุงตู่' ทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติจริงๆ
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ที่พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดอุดรธานีออกมา ขอบคุณนายกฯ ลุงตู่ ในครั้งนี้ ก็เพราะจังหวัดอุดรธานี ถือได้ว่าเป็นจังหวัดที่ไปทำงานต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศซาอุดิอาระเบียมากที่สุดในประเทศไทย และทราบว่าคนในบ้านของตน บ้านพรสวรรค์ ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี หลายคนก็เคยไปทำงานที่ประเทศซาอุดิอาระเบียติดต่อกันหลายปีตั้งแต่ปี 2525- 2530 นำเงินกลับมาสร้างฐานะให้ครอบครัวและลูกหลานมาถึงทุกวันนี้ จึงทำให้ทุกคนมีความหวังว่าจะได้ไปทำงานอีกครั้งหนึ่ง
จากการรายงานของสำนักงานจัดหางานจังหวัดอุดรธานี พบว่า มีสถิติแรงงานที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ตั้งแต่ปี 2520 -2540 โดยในช่วงปี 2525 -2532 เป็นช่วงแรงงานไทยเดินทางไปทำงานที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย มากที่สุด เฉลี่ยปีละ 16,000 คน ซึ่งอาจคิดเป็นรายได้เฉลี่ย 20,000/คน / เดือน สามารถสร้างรายได้ต่อปีถึงกว่า 14,700 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้อมูลที่รวบรวมมาได้ในอดีต ส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานก่อสร้างพื้นฐาน ช่างก่อสร้าง ถนน ตึก บ้าน โดยพื้นฐานคนจังหวัดอุดรธานี นิยมไปทำงานต่างประเทศอยู่แล้ว
"ขณะนี้ทางจัดหางานจังหวัดอุดรธานี รอฝ่ายนโยบายที่ไปเจรจากับทางประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อกำหนดเป็นนโยบายลงมาว่า จะใช้ตำแหน่งงานไหน จะดำเนินการสั่งการลงมาจังหวัดให้เป็นผู้ประกาศรับสมัคร ซึ่งความชัดเจนนี้ต้องรอฝ่ายนโยบายอีกครั้ง ยอมรับว่าเป็นข่าวดีสำหรับแรงงานชาวจังหวัดอุดรธานี ชาวอีสาน และ แรงงานไทยทั้งประเทศ ที่จะเดินทางไปทำงานประเทศซาอุดิอาระเบียต่อไป”