วันนี้(2 ก.พ.65) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคชาติพัฒนา(ชพน.) วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองที่กำลังร้อนแรง โดยเฉพาะตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถึงกับเคร่งเครียดตกที่นั่งลำบากว่า เรื่องการเมืองปีนี้เป็นปีที่เหมือนกับพรรคการเมืองที่มีการประเมินกันแล้วว่าเป็นปีสุดท้าย โค้งสุดท้ายแล้วของอายุรัฐบาลเทอม 4 ปี
ฉะนั้น ก็จะเป็นบรรยากาศอย่างนี้ เป็นบรรยากาศการเมือง มีการเตรียมผู้สมัคร มีการเปิดตัวพรรคการเมือง มีการเตรียมพรรคการเมือง แม้กระทั่งบังเอิญมีการเลือกตั้งซ่อมเกิดขึ้น ก็เลยมีการอุ่นเครื่อง เหมือนเทนิสแกรนสแลม อุ่นเครื่องเพื่อชิมลางบ้าง จะได้ทดสอบความนิยม ทดสอบนโยบายต่างๆ
“ผมคิดว่าเป็นบรรยากาศที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งใหญ่ แต่ผมไม่ทราบว่าเลือกตั้งใหญ่จะมีเมื่อไหร่ ฉะนั้น บางทีมีเลือกตั้งซ่อม คนนั้นแพ้ คนนั้นชนะผมคิดว่าก็เหมือนกีฬา มีแพ้ มีชนะ แต่การที่เรามีการเลือกตั้งซ่อม มีการอุ่นเครื่องก่อนมันก็ดีอย่าง เหมือนกับทำให้เราได้ตั้งหลักกันว่าสิ่งที่ผ่านมา และขณะนี้ทัศนคติทางการเมืองพี่น้องประชาชนคิดอะไร แต่ละพรรคการเมืองก็จะได้ไปปรับปรุงบทบาทหน้าที่ เพราะว่าการแข่งขันนั้นคือสนามใหญ่ เลือกตั้งซ่อมก็เหมือนกับสนามเล็กอุ่นเครื่อง”
ส่วนเสถียรภาพในพรรคใหญ่แกนนำรัฐบาล จะส่งผลต่อการยุบสภา ช่วงกลางปีนี้หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า คิดว่าจะถึงขั้นยุบสภาหรือเปล่า ตนไม่ทราบ แต่เสถียรภาพของรัฐบาลต้องดูให้ดี อย่างตอนนี้เรากำลังแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจกัน แต่ว่าบางทีเราประชุมสภาไม่ได้ สภาล่ม นับองค์ประชุมไม่ครบ อันนี้ถือว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ดีในการแก้ไขปัญหาของประเทศ
“พี่น้องประชาชนคาดหวังว่ากลไกของสภาจะมาแก้ไขปัญหา แต่พอเสถียรภาพรัฐบาล บางทีเหมือนกับไม่มั่นคงนัก ก่อให้เกิดการทำงานในสภาที่ไม่ราบรื่น ก็ไปกระทบกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ฉะนั้น ผมคิดว่ารัฐบาลจะอยู่ยาวแค่ไหนผมไม่ทราบ แต่ว่าเสถียรภาพต้องรีบแก้ไขเป็นการด่วน เพื่อให้ตัวเลขต่างๆ นิ่ง แล้วอย่างน้อยกลไกของสภาทำงานได้ ถ้าเกิดกลไกของสภาทำงานไม่ได้ ก็จะเป็นอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ”
ฉะนั้น ตนคิดว่าพรรคแกนนำกับพรรคร่วมรัฐบาลต้องหารือกันอย่างใกล้ชิดในสถานการณ์อย่างนี้ เพื่อที่จะได้ประคองให้รัฐบาลทำงานแก้ไขให้เต็มที่
“ส่วนจะยุบสภา จะเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ว่ากันไป แต่เวลาที่เหลืออยู่ทุกวัน เวลาทุกนาทีมีค่าสำหรับเศรษฐกิจและความสุขของพี่น้องประชาชน”
ส่วนการปรับ ครม.ช่วงโค้งสุดท้ายนี้นั้น ตนคิดว่าเรื่องปรับ ครม.เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ตนไม่ทราบว่าท่านจะคิดอย่างไร
สำหรับการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งของพรรคชาติพัฒนา นายสุวัจน์ กล่าว่า ตนเชื่อทุกพรรคการเมืองตอนนี้ก็เตรียมพร้อมกันหมดแล้ว พรรคชาติพัฒนาก็เตรียมพร้อม ทั้งเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเราจะให้ความสำคัญนโยบายเศรษฐกิจมาก ก็คิดว่า 2 ปีที่ผ่านมาจากปัญหาโควิด เราบอบช้ำเรื่องเศรษฐกิจ พี่น้องประชาชนเดือดร้อนกันมาก ผู้ประกอบการต่างๆ ชาวไร่ ชาวนา รากหญ้าต่างๆ เดือดร้อนกันจริงๆ
ฉะนั้น ตนอยากให้ทุกพรรคช่วยกันคิดนโยบายเศรษฐกิจที่โดนใจแล้วแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ไม่จำเป็นต้องพรรคชาติพัฒนา แต่ทุกพรรคการเมืองช่วยกันคิด ช่วยกันนำเสนอ อย่างน้อยให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าการเมืองได้ช่วยกันแล้วหันหน้าเข้าหากัน สร้างสรรค์นโยบายดีๆ เพื่อมาแก้ไขปัญหาหลังโควิด
“การเลือกตั้งครั้งหน้านี้ ผมว่าจะเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนจะโฟกัสว่านโยบายเศรษฐกิจในการแก้ไขปัญหาจะเป็นอย่างไร” นายสุวัจน์ กล่าว