วันนี้ (6 ก.พ.65) ที่กองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลบ้านนา อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมด้วย นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นายสันติ กีระนันทน์ นายวัชระ กรรณิการ์ นายอิธวัฒน์ พิทักษ์คุมพล นายแก้ว สังฆ์ชู และผู้ร่วมก่อตั้งพรรคฯ พบปะตัวแทนเครือข่ายกองทุนสวัสดิการชุมจังหวัดพัทลุง กว่า 50 คน เพื่อรับฟังการดำเนินงานและอุปสรรคปัญหาการขับเคลื่อนกองทุนฯ
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า หนึ่งในนโยบายเศรษฐกิจที่พรรคให้ความสำคัญคือ นโยบายเศรษฐกิจฐานราก โดยมองว่า เศรษฐกิจฐานรากจะเข้มแข็ง ต้องเกิดจากความร่วมมือของพี่น้องประชาชนในชุมชน ไม่สามารถขับเคลื่อนโดยรัฐฝ่ายเดียวได้
แต่รัฐต้องช่วยเรื่องเศรษฐกิจ และการช่วยต้องครบวงจร ชุมชนกับรัฐต้องขับเคลื่อนไปด้วยกัน ต้องไม่มองแค่การหารายได้ แต่การแก้ปัญหาหนี้สินต้องทำควบคู่ไปด้วยกัน ต้องเกื้อกูลกัน ซึ่งนับจากนี้พรรคจะนำเสนอแนวความคิดแลกเปลี่ยนกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ
เพราะนโยบายเศรษฐกิจฐานรากที่พรรคจะขับเคลื่อน ต้องตกผลึกจากพี่น้องประชาชนที่จะมาเป็นคนร่วมคิด และนำแนวคิดของพี่น้องประชาชนมาผสมผสานกับแนวคิดของนักเศรษฐกิจที่มากประสบการณ์ในพรรค จากนั้นจะออกเป็นนโยบายพรรคที่ชัดเจนสำหรับการหาเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้
“สวัสดิการชุมชน คือหัวใจสำคัญ ถ้าชุมชนมีสวัสดิการ ชุมชนจะดูแลตัวเองได้ เพราะโครงสร้างรัฐบาลเป็นโครงสร้างใหญ่ กว่าจะมาถึงชุมชนช้า ที่ผ่านมาหลายเหตุการณ์วิกฤติรอดได้ เพราะชุมชนเข้มแข็ง และพรรคพร้อมเสนอการฟื้นโครงการซิป (โครงการลงทุนเพื่อสังคม หรือ Social Investment Project : SIP) ขึ้นมาช่วยพี่น้องประชาชนที่กำลังลำบาก จากปัญหาหนี้ครัวเรือน รายรับที่ไม่พอกับรายจ่าย ขาดการส่งเสริมต่อยอดอาชีพในท้องถิ่น
ข้อดีของนโยบายคือ เป็นนโยบายชั่วคราว รัฐบาลไม่ต้องหว่านเม็ดเงินตลอด ชุมชนเข้มแข็งก็ยุติโครงการ ให้เขาดูแลกันต่อไป ต้องไม่ช่วยแบบปูพรม แก้ให้ตรงจุด ช่วยให้ถูกคน ถึงจะเกิดความยั่งยืน
“ผมมั่นใจว่า ผมเห็นว่าเรื่องเศรษฐกิจฐานรากเป็นสิ่งสำคัญต้องขับเคลื่อนตรงนั้น เห็นในหลายปัญหา ไม่ว่าจะเรื่องกฎหมาย การบริหารจัดการ ดังนั้น ในการจัดทำนโยบายพรรค ผมจึงเน้นเศรษฐกิจฐานรากด้วยตัวเอง อยากทำนโยบายที่คนฐานรากต้องการจริงๆ คำว่าชุมชนเข้มแข็งพูดกันมานาน แต่ยังขาดการส่งเสริมแบบจริงจัง วันนี้พรรคสร้างอนาคตไทยจะทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง” นายสนธิรัตน์ กล่าว
ต่อมา นายสนธิรัตน์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ในหัวข้อ "ฐานรากเข้มแข็ง ประเทศก็เข้มแข็ง” ทุกคนเชื่อเหมือนกันกับผมไหมครับ
วันนี้ผมมาชุมชนบ้านนา อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง กับครูแก้ว และคุณนิพิฏฐ์ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทยครับ
ครูแก้ว สังข์ชู ถือเป็นปราชญ์ชาวบ้านคนหนึ่งที่ทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในระดับชุมชนร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) มาอย่างต่อเนื่องครับ
ซึ่งพรรคของเราให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเรื่องนี้ครับ เพราะเมื่อใดก็ตามที่ "ฐานรากเข้มแข็ง ประเทศก็เข้มแข็ง" ครับ
หนึ่งในนโยบายหลักของพรรค เราจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการผลักดันและเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากในระดับชุมชน ผ่านการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือครับ
ขอย้ำครับว่าเราเน้นที่การให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือเป็นสำคัญ เพราะเราอยากให้ชุมชนเป็นผู้คิด และกำหนดเส้นทางการพัฒนาพื้นที่และเศรษฐกิจในชุมชนของตนเอง มากกว่าการที่ภาครัฐคิดให้หรือคิดแทนครับ
ผมเชื่อครับว่าถ้าชุมชนสามารถพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่โดยอาศัยการสนับสนุนของภาครัฐจะทำให้เกิดความกินดีอยู่ดีตามมา ที่สำคัญที่สุดคือเกิดความยั่งยืนครับ
เมื่อหลาย ๆ ชุมชนเกิดการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนและเติบโตขึ้นพร้อม ๆ กัน ก็จะส่งผลให้ภาพรวมของเศรษฐกิจทั้งประเทศมีความมั่นคงด้วยครับ
ฉะนั้นผมและพรรคสร้างอนาคตไทย จึงต้องการเข้ามาผลักดันให้นโยบายนี้เกิดขึ้นจริง เพื่อให้ชุมชนทั่วประเทศไทยสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง อย่างแข็งแกร่ง ทุกคนกินดีอยู่ดี และร่มเย็นเป็นสุขครับ