วันนี้ (13 ก.พ.65) ที่โรงแรม Pullman จังหวัดขอนแก่น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมด้วย นายสุพล ฟองงาม ขุนพลภาคอีสาน และ นายวัชระ กรรณิการ์ กรรมการประสนงานพรรคฯ ร่วมพบปะพูดคุยเครือข่ายผู้ร่วมอุดมการณ์ “สร้างอนาคตไทย” ภาคอีสาน อาทิ นายชัยมงคล ไชยรบ นายวิริยะ ทองผา เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรค พร้อมกันนี้ได้เปิดตัว นาวาอากาศเอก วิชัย ราชานนท์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นความตั้งใจมาร่วมพิธีฌาปนกิจภรรยาของ ดร.จำลอง ภูนวนทา และมาแสดงความเสียใจ ให้กำลังใจนายจำลอง และถือโอกาสมาพบปะพูดคุยกับเครือข่ายผู้ร่วมอุดมการณ์สร้างอนาคตไทยภาคอีสาน ถึงแนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาตร์ของพรรค ซึ่งขณะนี้พรรคเร่งทำงานเชิงพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อสรรหาผู้สมัครที่มีอุดมการณ์เดียวการกับพรรคมาร่วมสร้างอนาคตประเทศไทยไปด้วยกัน ซึ่งขณะนี้ได้มีการทาบทามนายจำลอง ภูนวนทา เข้ามาร่วมเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดกาฬสินธุ์ด้วย
ส่วนความคืบหน้าในการวางตัวผู้สมัครส.ส.ในพื้นที่ภาคอีสานนั้น เนื่องจากพรรคมองว่า ในพื้นที่ภาคอีสานเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญไม่ใช่แค่จำนวนผู้สมัครและประชากร แต่พรรคยังมองถึงศักยภาพของภูมิภาค ที่หากขับเคลื่อนให้เกิดการพลิกฟื้นด้านเศรษฐกิจได้ จะมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศได้ ซึ่งพรรคตั้งใจและให้ความสำคัญในการสรรหาผู้สมัครที่ดีที่สุด ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงและร่วมพัฒนาภาคอีสานไปด้วยกัน
ในโอกาสนี้ นายสนธิรัตน์ ได้เปิดตัว นาวาอากาศเอกวิชัย ราชานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดขอนแก่น
นอกจากนี้ นายสนธิรัตน์ ยังได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงกรณี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ว่าใช่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคหรือไม่ โดยนายสนธิรัตน์ไม่ได้ตอบปฏิเสธ เพียงแต่กล่าวว่า ดร.สมคิด เป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในข่ายมีคุณสมบัติเป็นแคนดิเดตนายกของพรรคฯ ท่านรับทราบแนวทางการทำงานการเมืองของพวกตน แต่ยังไม่ได้ตอบรับในเรื่องแคนดิดเดตนายกฯ
ด้าน นาวาอากาศเอกวิชัย ราชานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น พรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจเป็นผู้สมัครของพรรคสร้างอนาคตไทยว่า เนื่องจากขณะนี้ได้มองเห็นปัญหาด้านเศรษฐกิจของบ้านเมืองเป็นหลักสำคัญ บวกกับที่ตนมีความมั่นใจในทีมเศรษฐกิจและแกนนำผู้ร่วมก่อตั้งพรรคฯ ทั้งนายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่จะร่วมแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้บ้านเกิดของตนรวมถึงของประเทศได้
จึงได้ตัดสินใจหวนคืนสู่วงการเมืองอีกครั้ง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรับใช้บ้านเกิด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตั้งใจว่าจะไม่เล่นการเมืองอีกแล้ว ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ตนมีความมั่นใจว่าจะต้องทำได้
ทั้งนี้ ก่อนหน้าการพบปะเครือข่ายผู้ร่วมอุดมการณ์สร้างอนาคตไทย นายสนธิรัตน์ และคณะพรรคสร้างอนาคตไทย ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีประชุมเพลิงนางสุภารัตน์ ภูนวนทา ภรรยาของนายจำลอง ภูนวนทา ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่จังหวัดกาฬสินธุ์
สำหรับ นาวาอากาศเอกวิชัย ราชานนท์ ปัจจุบันอายุ 54 ปี เป็นนักชกมวยฝีมือดี ติดทีมชาติเป็นครั้งแรกในปี 2530 ขึ้นชกมวยสากลสมัครเล่นคิงส์คัพ คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ
ขณะที่ผลงานในระดับทีมชาติ ผ่านศึกมาอย่างโชกโชน เคยชกที่เอเชียนเกมส์สองครั้งที่ปักกิ่ง ประเทศจีน ในปี 2533 และฮิโรชิมา ที่ญี่ปุ่น ในปี 2537 โดยทั้ง 2 ครั้ง วิชัย ได้เพียงแค่เหรียญทองแดง
ในปี 2534 วิชัยเข้าแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งแรกที่ฟิลิปปินส์ได้เหรียญทอง
ปี 2536 ที่สิงคโปร์ได้เหรียญเงิน และมาได้เหรียญทองอีกครั้งใน ซีเกมส์ ปี 2538 ที่เชียงใหม่
ส่วนการชกมวยในระดับกีฬาโอลิมปิก ของ วิชัย ในโอลิมปิก ครั้งที่ 26 ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ในปี 2539 วิชัย ประสบความสำเร็จ คว้าเหรียญทองแดงมาได้ เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการกีฬาของไทย โดยเป็นครั้งแรกที่นักกีฬาไทยสามารถครองเหรียญโอลิมปิก พร้อมกันถึง 2 คน อีกคนหนึ่ง คือ สมรักษ์ คำสิงห์ ซึ่งเป็นนักกีฬารายแรกที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก