วันนี้ (16 ก.พ.65) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี พูดถึงตนเองและเล่าเรื่องเลี้ยงสุนัข 50 ตัวในบ้าน ผ่านเพจแคร์ คิด เคลื่อน ไทย ในหัวข้อ “จุดสิ้นสุดรัฐบาลตู่ พลิกเกมสู้ของแพง” ว่า
อยากจะชี้แจงข้อเท็จจริงว่าไม่มีใครรู้จักนายโทนี่เท่ากับตนเองแล้ว เพราะเป็นคนที่ทำให้นายโทนี่ ได้เป็น ส.ส.สมัยแรกในปี 2538 ในนามพรรคพลังธรรม เพราะนายโทนี่ ให้อดีต ผบ.ทบ.คนหนึ่งโทรตามตนเองให้เข้ามาช่วยในการเลือกตั้ง ดังนั้น ไม่ควรที่จะเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับสุนัขที่บ้านว่าไม่รู้จักบุญคุณคน
ตั้งแต่ตนเองได้ทำงานร่วมกับนายโทนี่ และครอบครัวชินวัตร เป็นเวลากว่า 20 ปี ต้องยอมรับว่าผิดหวัง เพราะคิดว่า นายโทนี่ เป็นหัวหน้า คนที่จะมาบริหารประเทศเป็นคนดี ทุ่มเททำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่แสวงหาประโยชน์ ซื่อสัตย์ แต่เวลาผ่านไปกลับพบว่าตนเองอยู่กับหัวหน้าโจร มีเรื่องคอร์รัปชัน มีแต่ญาติพี่น้องเข้ามาครอบงำในเรื่องของงบประมาณ ซึ่งคนในพรรคทราบเรื่องนี้ดี
ส่วนที่นายโทนี่ กล่าวหาตนเองเป็นกิ้งกือ ไส้เดือน หรือเล่าเรื่องสุนัขที่บ้านชื่อแม็กซ์ ชอบมากัดเจ้าของตลอด มีลักษณะเปรียบเทียบเป็นตนเองนั้น นายเสกสกล ชี้แจงว่า หากเจ้าของหมาเป็นคนดี ประวัติดี ไม่เป็นหัวหน้าโจร เจ้าแม็กซ์ เป็นสุนัขฉลาดก็คงไม่กัด
“ผมต้องขอยกย่องชื่นชมเจ้าแม็กซ์สุนัขตัวนี้ด้วยซ้ำ ที่มันฉลาดรู้ว่าเจ้าของเป็นขี้โกง และยังมองว่านายโทนี่ ไม่ควรที่จะด้อยค่าส.ส.ในเครือข่ายของตัวเองเปรียบเทียบเป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้ของคุณโทนี่เช่นเดียวกัน บรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทย หรือคนในพรรคน่าจะคิดได้แล้วว่าถูกมองอย่างไร้ค่า ส.ส.จะยอมเสียศักดิ์ศรีให้กับคนที่มาดูถูกดูแคลนเช่นนี้ได้อย่างไร ซึ่งผมเองอายแทนพี่น้องประชาชน”
นายเสกสกล กล่าวด้วยว่า ในขณะที่ตนเองอยู่พรรคไทยรักไทย ได้เห็นพฤติกรรมของนายโทนี่ เอาครอบครัวมาแสวงหาผลประโยชน์ ประมาณปี2546-2547 มีตัวแทนภาคประชาชนมาร้องเรียนกับตัวเอง ซึ่งขณะนั้นเป็นส.ส.ด้วย ถึงความไม่ชอบมาพากลโครงการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่อาจจะมีการทุจริตเสียหายต่อรัฐประมาณ 500 ล้านบาท
“ผมเองจึงเข้าพบ นายทักษิณ สมัยนั้นเป็นนายกฯ ชี้แจงเรื่องราวต่างๆพร้อมเอกสารแต่ นายทักษิณ กลับบอกให้เลขาส่วนตัวรับไปจัดการเรื่องนี้ สุดท้ายโครงการก็ผ่านไปได้โดยที่ไม่มีการตรวจสอบ และยังให้เลขาส่วนตัวโทรมาบอกผมเองว่าอย่าเข้าไปยุ่ง ปล่อยไปให้เขาทำไป”
นอกจากนี้ยังมีโครงการมูลค่า 2.2 ล้านล้านบาท ในสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมี “เสี่ย ป.” เดินทางไปพบนายโทนี่ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่ตนเองไปพบนายโทนี่ พูดคุยเรื่องงานบ้านเมือง แต่ปรากฏว่าตนเองไม่ได้คุยเรื่องงานเลย นายโทนี่ไม่มีเวลาให้ เพราะนายโทนี่มีแต่เวลาคุยเรื่องผลประโยชน์ใต้โต๊ะ กับเจ้าของบริษัทต่างๆ หลายบริษัท
“ขากลับผมมีโอกาสเดินทางกลับมาพร้อมเสี่ย ป. โดยเครื่องบินส่วนตัวของเสี่ย ป. และ เสี่ย ป. ได้เล่าข้อมูลให้ฟังว่าไปพบ นายทักษิณ พูดคุยเรื่องผลประโยชน์ ส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่น และเรื่องนี้คนที่รู้ดีที่สุดอีกคนคือ เพื่อนรักนายทักษิณ ที่มีอักษรย่อ “ช.” อยู่ปักกิ่ง เป็นคนวางแผนเดินเกมให้ นายทักษิณในการจัดการเรื่องเงินทอน
นายเสกสกล ยังระบุถึงกรณีที่นายโทนี่ กล่าวหาว่า นายกฯ ประยุทธ์ ให้ตนเองไปตั้งพรรคการเมืองและบอกว่านายกฯประยุทธ์ ทำตัวเหมือนพญาหงส์ไม่กล้าลงหนองน้ำเล็ก ปล่อยให้กิ้งกือไส้เดือนอย่างตนเองไป ว่า การไปตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ นายกฯ ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นผู้สั่งการ เป็นการคิดและดำเนินการด้วยตนเอง
“ผมเห็นว่า ชื่อพรรคดีมีความหมายดี จึงสนับสนุนพรรคนี้ ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับนายกฯ เพราะท่านนายกฯ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวสั่งการผมกับเรื่องนี้ ไม่เหมือนในอดีตที่ นายทักษิณ ได้เป็นส.ส. และเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม เพราะ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และตอนหลังตามกระทืบตามกัด พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หัวหน้าพรรคพลังธรรม แบบเอาเป็นเอาตาย
จน พล.ต.จำลอง ต้องเอามวลชนมาขับไล่ คนที่เนรคุณ พล.ต.จำลอง ที่อุตส่าห์สนับสนุนให้ลงสู่ถนนการเมืองแบบนี้ใช้ได้หรือไม่ ตัวอย่างผู้นำที่เนรคุณผู้มีพระคุณ ทำกับ พล.ต.จำลอง เช่นนี้ใช้ได้หรือไม่ ผมยังมีข้อมูลของนายทักษิณอีกมากมายที่ยังไม่อยากเอามาพูดในตอนนี้”
นายเสกสกล กล่าวด้วยว่า การที่ตนเองลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ ไปสนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำเอง เพราะอยากสร้างพรรคที่ดีๆ ซึ่ง นายโทนี่ไม่ต้องมากล่าวหานายกฯ ประยุทธ์ และอย่ามากล่าวหาว่า ตนเองเป็นกิ้งกือ ไส้เดือน เพราะกิ้งกือ ไส้เดือนคนนี้แหละที่เคยทำให้ นายทักษิณ ได้เป็นส.ส. เป็นนายกฯ มาแล้ว และหากตัวเองจะเปรียบเปรย นายโทนี่ บ้างก็คงจะเปรียบเป็น ตัวเงินตัวทองก็ได้ เพราะกินแต่ของสกปรก ซากปลาตายในน้ำไม่ได้มีประโยชน์อะไร แตกต่างกับกิ้งกือ ไส้เดือนที่ยังเป็นประโยชน์กับดินไว้ปลูกพืช”
"นายโทนี่ ต้องย้อนกลับไปดูว่าที่ร่ำรวยเพราะอะไร ทุกคนรู้ว่าวิ่งไปมุดกราบตีนบิ๊กทหารคนหนึ่งในยุค รสช. จนได้สัมปทานดาวเทียมไทยคม และเอาผลประโยชน์ของคนไทยไปออกกฎหมายขายในยุคที่ นายทักษิณ เป็นนายกฯ จนทำให้ลูกน้องที่เป็นรัฐมนตรีติดคุกมาแล้ว ทำไมลืมง่ายจัง
"คนอย่างโทนี่หมดเครดิตหมดสภาพเชื่อถือจากคนไทยแล้ว กิ้งกือไส้เดือน เจ้าแม็กซ์ อย่างแรมโบ้ ยังมีประโยชน์ต่อประเทศชาติประชาชนมากกว่าคุณโทนี่ หลายสิบเท่า เพราะจิตใจผมตอนนี้คิดดีทำดีอุทิศตนปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ไม่เคยคิดโกงกินเงินภาษีประชาชน เหมือนนายโทนี่ จนต้องหนีคดีตราบเท่าทุกวันนี้
นายโทนี่รู้ดีทุกเรื่องในจักรวาลใบนี้ รู้กระทั่งส.ส.เพื่อไทยคนไหนกำลังจะรับเงินขายตัวคนละ 20-30 ล้านบาท มาอยู่ขั้วรัฐบาล แต่ นายโทนี่ ไม่รู้อยู่เรื่องเดียวว่าตัวเองจะได้กลับมาติดคุกคดีโกงเมื่อไร และจะได้กลับบ้านเมื่อไร" นายเสกสกล กล่าว