นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ กรณีสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แถลงเรื่องเหตุท่อน้ำประปาแตกหักเหนือเพดานชั้น 8 อาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 ว่า บริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) จะเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหาย
ทั้งหมดนั้น มีเหตุอันควรสงสัยว่าเหตุใด สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถึงไม่แถลงข้อเท็จจริงทั้งหมดว่า เกิดความเสียหายทั้งหมดอย่างไรบ้าง เพื่อประชาชนจะได้รับรู้ร่วมกัน
“ผมได้รับคลิปน้ำประปารั่วท่วมสภาฯ ในวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา อีก 1 คลิป จะเห็นว่ามวลน้ำไหลทะลักลงตามช่องลิฟต์จากชั้น 8 ลง ถึงชั้นบี 1 ที่หน้าลิฟต์ชั้น 6 เกิดม่านน้ำตกสวยงามไหลเป็นม่านตกลงบริเวณหน้าลิฟต์ทั้ง 3 ตัวแล้วไหลเจิ่งนองรอการระบายไปตามทางเดินเข้าไปในห้องทำงานของท่านส.ส.ผู้ทรงเกียรติจนพรมเปียก แต่โชคดีที่สภาปิดสมัยประชุมไปแล้ว"
ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมสภาฯ ถึงไม่แถลงว่าจากเหตุดังกล่าวนั้น ทำให้ลิฟต์ยี่ห้อฮิตาชิ ราคาตัวละประมาณ 2 ล้านบาท เจ๊งถึง 3 ตัว ถึงวันนี้ก็ล็อคปิดประตูลิฟต์ไว้เฉย ๆ เพราะใช้การไม่ได้ ฝ้าเพดานพังเป็นแถบ ๆ
เอกสารหนังสือหายากในห้องสมาชิกวุฒิสภาเสียหายเป็นจำนวนมาก บริษัทซิโน-ไทยฯ จะรับผิดชอบอย่างไร ทำไมไม่มีการแถลงรับผิดชอบต่อสาธารณะทั้ง ๆ ที่เป็นบริษัทมหาชน
ส่วนสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ต้องตรวจสอบว่า วัสดุในโครงการก่อสร้างสภาใหม่ ราคา 12,280 ล้านบาท ที่ติดตั้งนั้นสร้างตรงตามที่กำหนดในสัญญาหรือไม่
เช่น ดินที่ถมสร้างสภาฯ ตรงตามสเปคหรือไม่ หรือ เอาขยะ ยางรถยนต์มาถมไว้ข้างล่าง เสาไฟฟ้าเป็นเสาหล่ออัลลอยด์ผสมทองแดงจริงหรือไม่ หรือเอาเหล็กแผ่นมาม้วนเป็นเสาแล้วอ็อกเหล็กเชื่อมกัน หินทราโวทีนสีเหลือง หนา 25 ม.ม. ตรงตามสเปคหรือไม่ หรือ ลดความหนาเหลือแค่ 20 ม.ม.ทั้งโครงการ
ไม้เป็นไม้ตะเคียนทองทั้งหมดตามสเปคหรือไม่ หรือกลายเป็นไม้พะยอม ทำไมผู้บริหารของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ไม่เร่งตรวจสอบ
จากสัญญาก่อสร้างเดิม 900 วัน ขยายสัญญา 4 ครั้ง สิ้นสุดสัญญา 31 ธันวาคม 2563 หากนับถึงวันนี้ 6 มีนาคม 2565 ล่วงเลยสัญญา 430 วัน ก็ยังไม่แล้วเสร็จ หากคิดเป็นค่าปรับวันละ 12.28 ล้านบาท รวมเป็นจำนวนเงินค่าปรับทั้งสิ้น 5,280.40 ล้านบาท สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ได้ส่งหนังสือเรียกค่าปรับกับบริษัทผู้รับเหมาแล้วหรือยัง เพื่อรักษาประโยชน์ของทางราชการ
และเพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าไปใช้อาคารรัฐสภา ขอเสนอว่าควรตั้งผู้ว่าการประปานครหลวง อธิบดีกรมชลประทาน อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา และอธิบดีกรมประมงเข้าไปเป็นที่ปรึกษาสภาฯ เพื่อป้องกันเหตุฝนตกน้ำรั่วทุกครั้งหรือท่อประปาแตกอีก เพราะเหตุที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอนที่สุด
สภาฯ ใช้เป็นสถานที่รับแขกบ้านแขกเมืองแต่สร้างแล้วสุดห่วยแบบนี้ เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ขององค์กรฝ่ายนิติบัญญัติไทยไปทั่วโลก เป็นความเสียหายที่ประมาณค่ามิได้
“ทุกอย่างเป็นไปตามพุทธพจน์ ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม เป็นไปตามสภาพ แต่อย่าตอบแทนนักการเมืองด้วยเงินภาษีอากรของเพื่อนร่วมชาติ” นายวัชระ ระบุ