21 มี.ค.65 ที่โรงแรมหรรษา กรุงเทพ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย จัดพบปะสื่อมวลชน โดยตอบคำถามกรณีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคฯจะเสนอนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกฯหรือไม่นั้น ยังมีเวลา และวันนี้ก็ยังไม่มีใครเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมพรรคก็จะเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ
พรรคสร้างอนาคตไทยให้ความสำคัญกับคุณสมบัติของแคนดิเดตนายกฯมากกว่าตัวบุคคล โดย 1.จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ แก้ไขปัญหาของประเทศได้ มีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา 2.มีประวัติการทำงานที่พิสูจน์ได้ สะอาด โปร่งใส 3.เป็นที่ยอมรับของต่างชาติ
ต่อคำถามกรณีพรรคเพื่อไทย เปิดตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยนั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยก็มียุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ก็เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ทางการเมือง ทุกพรรคพยายามหาจุดขายของตัวเอง
สำหรับพรรคสร้างอนาคตไทย ต้องการเป็นตัวเลือกเพื่อหาทางออกให้กับประเทศไทย โดยพรรคสร้างอนาคตไทย มีความพร้อมมากที่สุดคือทีมเศรษฐกิจ โดยการเลือกตั้งครั้งหน้า ปัญหาเศรษฐกิจจะเป็นประเด็นสำคัญ ดังนั้น พรรคสร้างอนาคตไทย จึงจะทยอยเปิดตัวบุคลากรทางด้านเศรษฐกิจ พร้อมกับนโยบายที่ผ่านการคัดกรองจากบุคลากรที่มีประสบการณ์ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของพรรคสร้างอนาคตไทย เน้นเป็นพรรคมืออาชีพ
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทย ตั้งเป้าหมายส่งผู้สมัคร 400 เขต ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่เราได้ดำเนินการเตรียมการผู้สมัครได้ครึ่งหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายแล้ว เช่น กทม.
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญมาก พรรคสร้างอนาคตไทย จึงใช้เวลาพอสมควรในการเตรียมพร้อมด้านผู้สมัคร โดยเน้นคนรุ่นใหม่ เพื่อให้ประชาชนมีตัวเลือกใหม่ๆมากขึ้น ไม่ให้ประเทศไทยติดเดดล็อกทางการเมือง โดยเชื่อว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการเมือง ไม่มีพรรคการเมืองใหม่ๆ รวมถึงไม่มีบุคลากรทางการเมืองใหม่ๆ การเมืองก็จะไม่ต่างจากเดิม
"เราคงส่งครบ 400 เขต เพราะต้องเตรียมคะแนนในส่วนของปาร์ตี้ลิสต์ด้วย ยกเว้นเราจะหาผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมไม่ได้ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราพยายามคัดคนให้ดีที่สุด"
การประชุมใหญ่ประจำปีพรรคสร้างอนาคตไทย ช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่จะถึงนี้ จะมีความชัดเจนในเรื่องของโครงสร้างพรรค ทั้งตำแหน่งต่างๆพร้อมเปิดตัวบุคลากรใหม่ๆของพรรค สำหรับโครงสร้างของพรรคสร้างอนาคตไทย จะเป็นการผสมผสานระหว่างนักการเมืองที่มีประสบการณ์ และนักการเมืองหน้าใหม่
ถามถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แจ้งอาจยุบสภาหลังการประชุมเอเปค นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี แต่สถานการณ์ขณะนี้ทำให้หลายฝ่ายไม่แน่ใจว่าจะเกิดการยุบสภาขึ้นเมื่อใด แต่เชื่อว่านายกฯมีความพยายามจะนำพาประเทศไปจนกระทั่งพ้นการประชุมเอเปค พรรคสร้างอนาคตไทยไม่ได้คาดหวังว่าจะเกิดการยุบสภาเมื่อใด แต่เราได้เตรียมการไว้แล้ว ไม่ว่าจะยุบสภาเมื่อได
และต่อคำถามที่ผู้สื่อข่าวเนื่องในโอกาสวันที่ 21 มี.ค.เป็นวันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายสนธิรัตน์ กล่าวอวยพรว่า ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีความเข้มแข็ง ประสบความสำเร็จในการนำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤติ
ในฐานะผู้ที่เคยอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกฯ ขอเป็นกำลังใจและเอาใจช่วย เพราะนายกฯได้แบกภาระของประเทศไว้มาก ขอให้มีสิ่งดีๆที่คอยหนุนให้สามารถนำพาประเทศต่อไปได้