สนธิรัตน์ เปิด 3 คุณสมบัติเด่น แคนดิเดตนายกฯ "สร้างอนาคตไทย"

21 มี.ค. 2565 | 10:10 น.
อัปเดตล่าสุด :21 มี.ค. 2565 | 17:43 น.

สนธิรัตน์ เผย 3 คุณสมบัติเด่น แคนดิเดตนายกฯ พรรค"สร้างอนาคตไทย" ชี้มากประสบการณ์ - ประวัติพิสูจน์ได้ สะอาดโปร่งใส - ต่างชาติยอมรับ ย้ำจุดแข็งทีมเศรษฐกิจ ตอบโจทย์ปัญหาประเทศ

 21 มี.ค.65  ที่โรงแรมหรรษา กรุงเทพ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย จัดพบปะสื่อมวลชน โดยตอบคำถามกรณีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคฯจะเสนอนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกฯหรือไม่นั้น ยังมีเวลา และวันนี้ก็ยังไม่มีใครเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมพรรคก็จะเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ

 

พรรคสร้างอนาคตไทยให้ความสำคัญกับคุณสมบัติของแคนดิเดตนายกฯมากกว่าตัวบุคคล โดย 1.จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ แก้ไขปัญหาของประเทศได้ มีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา 2.มีประวัติการทำงานที่พิสูจน์ได้ สะอาด โปร่งใส 3.เป็นที่ยอมรับของต่างชาติ 

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย
ต่อคำถามกรณีพรรคเพื่อไทย เปิดตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยนั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยก็มียุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ก็เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ทางการเมือง ทุกพรรคพยายามหาจุดขายของตัวเอง  

 

สำหรับพรรคสร้างอนาคตไทย ต้องการเป็นตัวเลือกเพื่อหาทางออกให้กับประเทศไทย โดยพรรคสร้างอนาคตไทย มีความพร้อมมากที่สุดคือทีมเศรษฐกิจ โดยการเลือกตั้งครั้งหน้า ปัญหาเศรษฐกิจจะเป็นประเด็นสำคัญ ดังนั้น พรรคสร้างอนาคตไทย จึงจะทยอยเปิดตัวบุคลากรทางด้านเศรษฐกิจ พร้อมกับนโยบายที่ผ่านการคัดกรองจากบุคลากรที่มีประสบการณ์ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของพรรคสร้างอนาคตไทย เน้นเป็นพรรคมืออาชีพ

นายสนธิรัตน์  กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทย ตั้งเป้าหมายส่งผู้สมัคร 400 เขต ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่เราได้ดำเนินการเตรียมการผู้สมัครได้ครึ่งหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายแล้ว เช่น กทม.

 

สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญมาก พรรคสร้างอนาคตไทย จึงใช้เวลาพอสมควรในการเตรียมพร้อมด้านผู้สมัคร โดยเน้นคนรุ่นใหม่ เพื่อให้ประชาชนมีตัวเลือกใหม่ๆมากขึ้น ไม่ให้ประเทศไทยติดเดดล็อกทางการเมือง โดยเชื่อว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการเมือง ไม่มีพรรคการเมืองใหม่ๆ รวมถึงไม่มีบุคลากรทางการเมืองใหม่ๆ การเมืองก็จะไม่ต่างจากเดิม 

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย

"เราคงส่งครบ 400 เขต เพราะต้องเตรียมคะแนนในส่วนของปาร์ตี้ลิสต์ด้วย ยกเว้นเราจะหาผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมไม่ได้ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราพยายามคัดคนให้ดีที่สุด"

 

การประชุมใหญ่ประจำปีพรรคสร้างอนาคตไทย ช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่จะถึงนี้ จะมีความชัดเจนในเรื่องของโครงสร้างพรรค ทั้งตำแหน่งต่างๆพร้อมเปิดตัวบุคลากรใหม่ๆของพรรค สำหรับโครงสร้างของพรรคสร้างอนาคตไทย จะเป็นการผสมผสานระหว่างนักการเมืองที่มีประสบการณ์ และนักการเมืองหน้าใหม่ 

 

ถามถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แจ้งอาจยุบสภาหลังการประชุมเอเปค นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี แต่สถานการณ์ขณะนี้ทำให้หลายฝ่ายไม่แน่ใจว่าจะเกิดการยุบสภาขึ้นเมื่อใด แต่เชื่อว่านายกฯมีความพยายามจะนำพาประเทศไปจนกระทั่งพ้นการประชุมเอเปค พรรคสร้างอนาคตไทยไม่ได้คาดหวังว่าจะเกิดการยุบสภาเมื่อใด แต่เราได้เตรียมการไว้แล้ว ไม่ว่าจะยุบสภาเมื่อได

 

และต่อคำถามที่ผู้สื่อข่าวเนื่องในโอกาสวันที่ 21 มี.ค.เป็นวันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายสนธิรัตน์ กล่าวอวยพรว่า ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีความเข้มแข็ง ประสบความสำเร็จในการนำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤติ

 

ในฐานะผู้ที่เคยอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกฯ ขอเป็นกำลังใจและเอาใจช่วย เพราะนายกฯได้แบกภาระของประเทศไว้มาก ขอให้มีสิ่งดีๆที่คอยหนุนให้สามารถนำพาประเทศต่อไปได้