วันที่ 24 มี.ค.65 ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เสาชิงช้า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง แถลงข่าวภายหลังหนังสือลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ว่า ขอขอบคุณชาวกรุงเทพฯ ที่ให้ความร่วมมือช่วยเหลือ กทม.ทุกอย่าง ขอบคุณภาครัฐ และเอกชนที่ได้ประสานงานกัน เพราะกทม.จะทำงานไม่สำเร็จเลยถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆ
สำหรับกรุงเทพฯเป็นเมืองของความหวัง ตนเป็นคนต่างจังหวัดเข้ามาในกรุงเทพฯ เพื่อมาตามความฝันของตัวเอง และยังจำภาพในวัยเด็กได้เมื่อมาเป็นผู้ว่าฯกทม. ก็มีความหวังว่าอยากให้ชีวิตในอดีตกลับมาได้หรือไม่ อาทิ แม่น้ำเจ้าพระยาที่ใสสะอาด เมื่อตนเข้ามาเป็นผู้ว่าฯกทม.วันแรกจำได้ว่าเห็นคลองหลอดมีน้ำที่สกปรกมาก หรือชายทะเลบางขุนเทียนพบว่าไม่มีโรงพยาบาลของรัฐเลย หรือปัญหาน้ำท่วมแยกม.เกษตร จึงได้หาแนวทางแก้ปัญหาโดยทำธนาคารน้ำในจุดนั้น หรือคลองต่างๆ ได้ขุดลอกไปแล้ว
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า จนถึงวันนี้ตนเข้ามาเป็นผู้ว่าฯกทม. 5 ปี 5 เดือน กับอีก 5 วัน และวันนี้จะลาออกในวันนี้โดยเซ็นหนังสือไปแล้วถึง รมว.มหาดไทย โดยสิ่งที่ได้ทำมาแล้วคงจะมีการสานต่อไป ขณะนี้กรุงเทพฯ เปลี่ยนไปเยอะแล้ว ที่ผ่านมา 10-20 ปี นโยบายสวยหรูไม่เคยนำไปสู่ปฏิบัติ ตนก็นำนโยบายสู่การปฏิบัติใน 5 ปีนี้ ส่วนที่ลาออกวันนี้ตนจะไปสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ถามว่าติดยึดอำนาจก็ไม่ใช่ แต่จะมาทำงานที่ทำอยู่ให้เสร็จ หรือทำสิ่งดีๆ ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ส่วนผู้สมัครคนอื่นนั้น อาทิ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ พรรคประชาธิปัตย์ น.ต.ศิธา ทิวารี จากพรรคไทยสร้างไทย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จากพรรคก้าวไกล นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครอิสระ หรือน.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครอิสระ และพวกนี้เป็นคนดีคนเก่ง แต่เป็นเรื่องที่ดีที่คนกรุงเทพฯ จะมีตัวเลือกหลากหลาย
แต่ถ้าหมดตัวเลือกให้หันมามองอัศวิน เพราะนโยบายตนกรุงเทพฯ ต้องไปต่อ ตนเป็นนักปฏิบัติและเป็นนักประสาน และจะเปิดรับความคิดเห็นจากคนหนุ่มสาว คนที่มีความรู้ หรือคนพิการ ถ้าเป็นเป็นผู้ว่าฯกทม.ครึ่งหนึ่งจะมาเป็นผู้บริหารกับตน และจะไม่ลงสมัครในนามพรรคการเมือง
แต่จะมีกลุ่มรักษ์กรุงเทพฯที่ไม่มีนักการเมือง ที่สนับสนุน ส่วนเรื่องหาเสียงเสียงไม่ได้กังวลกับใคร ทุกคนเป็นคนดี ส่วนเรื่องทีมงาน ส.ก.จะเปิดตัววันที่ 28 มี.ค.นี้
"5 ปีที่ผ่านมาถือว่ายากทุกเรื่อง แต่ผมได้ทำทันทีที่ผ่านมา ส่วนหากจะประเมินคะแนนตัวเองอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง และจะสมัครใหม่เพื่อทำคะแนนให้ได้อีกครึ่งหนึ่ง ยังทำให้ไม่สุด แต่ภูมิใจทุกเรื่องที่ประชาชนปลอดภัย แต่ยังเสียใจที่ยังทำไม่ได้สมบูรณ์ และไม่ได้กังวลอะไร เพราะนโยบายใครๆก็เขียนได้
แต่ผมคัดคนเก่งๆ เข้ามาช่วยผม ผมเลือกใช้คนเก่ง ตอนเป็นตำรวจทำคดีอะไรจะจบได้ ผมไม่มักแถลงข่าว ผมไม่ชอบพูด เล็กๆน้อยผมทำได้ไม่ได้พูดไม่แถลงข่าว ผมเป็นนักปฏิบัติไม่ใช่นักพูด"
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่ได้รับเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร พล.ต.อ.อัศวินกล่าวเพียงว่า "ผมมาแน่"
หมายเหตุ : ขอบคุณภาพ NATION PHOTO