28 มีนาคม 2565 ที่สำนักงาน กสทช. ถ.พหลโยธิน ซอย 8 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องเพื่อขอให้ กสทช.ใช้อำนาจตามกฎหมายในการระงับ ยับยั้ง ป้องกันไม่ให้มีการผูกขาดในการประกอบกิจการโทรคมนาคม กรณีบริษัทค่ายมือถือของทรูและดีแทคได้ประกาศจะดำเนินการควบรวมธุรกิจโทรศัพท์มือถือระหว่างกันเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจไปสู่การเป็นบริษัทเทดโนโลยี (เทคคอมปะนี) อันอาจเป็นการขัดต่อกฎหมาย กฎระเบียบของ กสทช.ได้
ทั้งนี้ ศรีสุวรรณ เห็นว่า การควบรวมธุรกิจของทรูกับดีแทคจะก่อให้เกิดการผูกขาดและกระทบต่อการแข่งขันของธุรกิจการให้บริการโทรศัพท์มือถือ เพราะนอกจากจะมีผลกระทบด้านการเงินการลงทุนแล้ว ยังจะมีผลกระทบมหาศาลต่อผู้บริโภคและธุรกิจต่าง ๆ ที่ใช้บริการโทรคมนาคม รวมทั้งธุรกิจด้านฟินซัพพลายเออร์ ผู้ค้าปลีก-ค้าส่งโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ ตลอดจนบริการต่าง ๆ ที่ต้องอาศัยเครือข่ายของโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมด้วย ในรายละเอียดของข้อกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม 2544 ม.21
กำหนดให้ กสทช. กำหนดมาตรการเฉพาะตามลักษณะการประกอบกิจการโทรคมนาคม ไม่ให้ผู้รับใบอนุญาตกระทำการอย่างใดอันเป็นการผูกขาด หรือลด หรือจำกัดการแข่งขันในการให้บริการกิจการโทรคมนาคม ในเรื่อง การถือครองธุรกิจในบริการประเภทเดียวกัน การใช้อำนาจทางการตลาดที่ไม่เป็นธรรม หรือ พฤติกรรมกีดกันการแข่งขัน
ทั้งนี้ ตามประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำอันเป็นการผูกขาดหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม 2549 ข้อ 8 กำหนดไว้ว่า กรณีที่ กสทช. พิจารณาเห็นว่า การถือครองธุรกิจในบริการประเภทเดียวกันอาจส่งผลให้เกิดการผูกขาด หรือลด หรือจำกัดการแข่งขันในการให้บริการโทรคมนาคม
กสทช. อาจสั่งห้ามการถือครองกิจการหรือกำหนดมาตรการเฉพาะตามหมวด 4 เพื่อป้องกัน หรือ ระงับการกระทำหรือพฤติกรรมอันเป็นการผูกขาด หรือลด หรือจำกัดการแข่งขันในการให้บริการกิจการโทรคมนาคมก็ได้
ดังนั้น หาก กสทช. พิจารณาเห็นว่า การควบรวมธุรกิจระหว่างทรูและดีแทค จะทำให้ผูกขาด หรือลด หรือจำกัด หรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันในกิจการโทรคมนาคม ในการให้บริการธุรกิจโทรศัพท์มือถือ กสทช. ย่อมมีอำนาจดามกฎหมายสั่งห้ามการควบรวมหรือถือครองกิจการของ 2 ค่ายบริษัทมือถือดังกล่าวได้
นอกจากนี้ ศรีสุวรรณ ยังเปิดเผยด้วยว่า หาก กสทช. ไม่เร่งรัดดำเนินการยับยั้งกรณีควบรวมกิจการดังกล่าว นอกจากนี้ ศรีสุวรรณ ยังเปิดเผยด้วยว่า หาก กสทช. ไม่เร่งรัดดำเนินการยับยั้งกรณีควบรวมกิจการดังกล่าว หลังจากรับเรื่องของตนไปแล้วภายในกรอบเวลา 30 วัน ตนก็จะนำเรื่องนี้ไปร้องต่อศาลปกครองเป็นลำดับต่อไปในทันที