วันนี้(31 มี.ค.65 ) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เปิดเผยถึงโครงการระบบรับแจ้งความออนไลน์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี นับตั้งแต่เปิดศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ เมื่อวันที่ 1 มี.ค.2565 จนถึง 28 มี.ค.2565 ว่า มีผู้เสียหายแจ้งความออนไลน์ 7,681 ราย
อันดับ 1 คือ คดีหลอกลวงด้านการเงิน 4,436 เรื่อง แบ่งเป็น
- คอลเซ็นเตอร์ 702 เรื่อง
- ปลอมโปรไฟล์คนหน้าตาดีหลอกให้ลงทุน (Hybrid Scam) 96 เรื่อง
- ปลอมโปรไฟล์คนหน้าตาดีหลอกให้หลงรัก (Roman Scam) 743 เรื่อง
- หลอกให้กู้เงิน 879 เรื่อง
- แชร์ลูกโซ่ 347เรื่อง
- อื่นๆ 1,642เรื่อง
อันดับ 2 คือ หลอกจำหน่ายสินค้าออนไลน์ 2,854 เรื่อง แบ่งเป็น
- หลอกขายไม่ได้รับสินค้า 2,673 เรื่อง
- หลอกขายสินค้าไม่ตรงกับที่สั่งซื้อ 124 เรื่อง
- อื่นๆ 57 เรื่อง
และ อันดับ 3 คือ เฟคนิวส์ (Fake News) 89 เรื่อง
สำหรับโครงการระบบรับแจ้งความออนไลน์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีนี้ ประชาชนสามารถแจ้งความได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยสามารถแจ้งความทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com ผ่านคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์สมาร์ทโฟน
โดยจะต้องลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตน กรอกข้อมูลทางคดี ตามขั้นตอนจนเสร็จ ผู้แจ้งจะได้รับ “เลขรับแจ้งความออนไลน์ หรือ Case ID” เช่น 65021 จะมีผู้บริหารการรับแจ้ง (Admin) และผู้บริหารคดี (Case Manager) วิเคราะห์ข้อมูล และส่งเรื่องต่อไปยังสถานีตำรวจที่ผู้แจ้งสะดวกในการเดินทางไปแจ้งความ โดยสถานีตำรวจที่ได้รับเรื่อง จะเริ่มกระบวนการสืบสวนในทันทีที่ได้รับข้อมูลจากระบบรับแจ้งความออนไลน์
เมื่อ แอดมิน ของสถานีตำรวจรับเรื่องแล้ว ก็จะนำเสนอผู้บริหารคดี เพื่อจ่ายคดีให้แก่พนักงานสอบสวนทำการโทรนัดหมายผู้แจ้ง หรือผู้เสียหายมาสอบปากคำ และรายงานความคืบหน้าทางคดีในระบบออนไลน์ โดยผู้เสียหายจะสามารถติดตามความคืบหน้า ส่งข้อมูลเพิ่มเติม หรือสอบถามปัญหาผ่านระบบได้ตลอดเวลา
ในคดีอาชญากรรมทางออนไลน์ ประชาชนก็ยังสามารถไปแจ้งความโดยตรงได้ทุกสถานีตำรวจที่ท่านสะดวก แม้สถานีตำรวจนั้นจะไม่มีอำนาจการสอบสวน ก็จะส่งเรื่องต่อไปยังสถานีตำรวจที่มีอำนาจการสอบสวนต่อไป
ด้วยระบบรับแจ้งความออนไลน์นี้ ประชาชนจะได้รับความสะดวกมากขึ้น มีการนัดหมายล่วงหน้า ไม่ต้องไปรอคิวที่สถานีตำรวจ ไม่ต้องให้การในเรื่องเดิมซ้ำหลายครั้ง และสามารถร้องขอให้ธนาคารระงับธุรกรรมทางการเงินได้อย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เงินของผู้เสียหายถูกโอนไปยังเครือข่ายของคนร้าย และเจ้าหน้าที่เองก็จะได้รับประโยชน์กรณีผู้ต้องหากระทำความผิดหลายท้องที่ เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงคดี มีข้อมูลที่สามารถขอศาลออกหมายจับได้ง่ายขึ้น
ขอฝากเตือนว่าอย่าตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้ใครง่ายๆ หากพบเบาะแสสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ศูนย์ PCT 081-8663000 หรือ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ www.pct.police.go.th ตลอด 24 ชม. และผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com