"แม่ธนาธร"ยัน ซื้อที่ดินถูกกฎหมาย ลั่น!"อย่ากล่าวหาครอบครัวฉันโกง"

01 เม.ย. 2565 | 03:41 น.
อัปเดตล่าสุด :01 เม.ย. 2565 | 14:06 น.

"แม่ธนาธร" ยัน ซื้อที่ดินราชบุรีจากบริษัทเอกชนถูกกฎหมาย มีเอกสารสิทธิเรียบร้อย ระบุอดีตนักการเมืองดังแนะให้ซื้อ ลั่น!"อย่ากล่าวหาครอบครัวฉันโกงบ้านโกงเมืองเด็ดขาด"

 1 เม.ย.65  จากกรณีที่กรมที่ดิน มีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ น.ส. 3 ก. ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และบุตรอีก 2 คน คือ ชนาพรรณ และธนาธร เนื่องจากพบว่า เป็นที่ป่าไม้ถาวร นางสมพรได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า

 

รู้สึกเสียใจอย่างมาก ที่สังคมและสื่อต่างๆ ไปพาดหัวว่า ตระกูล "จึงรุ่งเรืองกิจ" รุกที่ป่า กินป่า เพราะนี่เป็นข้อหาที่ร้ายแรงสำหรับตนเองและครอบครัว ที่ทำมาหากินสุจริตและตั้งใจช่วยเหลือสังคมอย่างเต็มกำลังมาโดยตลอด และขอโอกาสชี้แจง เพื่อให้สังคมให้ความเป็นธรรม
 

นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ

นางสมพร ระบุว่า ตนไม่ใช่ผู้ซื้อมือแรก โดยเอกสารสิทธิที่ดิน ออกตั้งแต่ปี 2521 โดยกรมที่ดิน มีเจ้าหน้าที่เซ็นรับรองถูกต้องทุกอย่าง

 

ต่อมาในปี 2533 ตนได้รับการแนะนำจากอดีตนักการเมืองชื่อดัง ซึ่งในสมัยนั้นเป็นนักการเมืองสำคัญในบ้านเมือง ให้มาซื้อที่ดินจากบริษัทเอกชนชื่อดัง ที่เป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งก็เป็นนักธุรกิจใหญ่ รู้จักกันดี เมื่อทั้งเจ้าของและผู้แนะนำให้ซื้อเป็นคนที่น่าเชื่อถือ จึงไม่คิดเลยว่า ที่ดังกล่าวจะผิดกฎหมาย


“ฉันยืนยันว่าครอบครัวเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ นส. 3 ก. ตอนที่ฉันซื้อที่ดินก็มีเอกสารสิทธิรับรองถูกต้องตามกฎหมาย ซื้อขายมาหลายทอดแล้ว และฉันก็ไม่มีอำนาจบารมีไปบังคับ ข่มขู่ ให้เจ้าหน้าที่ออกเอกสารสิทธิให้

 

ที่ดินก็เป็นที่ของบริษัทใหญ่ มีเครดิตดี คนแนะนำเป็นนักการเมืองใหญ่ เอกสารสิทธิก็มีเรียบร้อย เราจึงไม่คิดเลยว่าจะมีปัญหาอะไรทางกฎหมาย”

ส่วนกรณีที่มีสื่อบางสำนักเสนอข่าวว่า นางสมพรเคยมีบันทึกกับกรมที่ดินว่า รับทราบอยู่แล้วว่า ที่ผืนนี้เป็นที่ป่า นางสมพร ยืนยันว่า เอกสารฉบับนี้เนื้อหาระบุแค่ว่า ตนรับทราบว่า ที่ดินแปลงนี้อาจเป็น หรือไม่เป็นที่ป่าไม้ถาวรก็ได้

 

บันทึกถ้อยคำดังกล่าว สำนักงานที่ดิน ทำไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนฟ้อง ถ้ามีการเพิกถอนสิทธิในภายหลัง ซึ่งในกรณีนี้ กรมที่ดินเองก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ป่าหรือไม่ แล้วตนเองเป็นราษฎรธรรมดาจะทราบได้อย่างไร

 

“ฉันมีที่ดินผืนนี้มา 30 ปี ไม่เคยมีปัญหาอะไร จนกระทั่งลูกชายมาทำงานการเมือง ลูกก็โดนยัดคดีร้ายแรงให้สารพัด ส่วนตัวฉันเองก็โดนร้องเรียนว่า รุกป่า กินป่า เป็นเรื่องเป็นราวเป็นคดีใหญ่โต ฉันยืนยันตรงนี้ว่า ที่ผืนนี้ ถึงจะซื้อมาถูกกฎหมายทุกประการ มีเอกสารสิทธิเรียบร้อย

 

แต่อยู่มาวันหนึ่งรัฐบอกว่าผิด จะเพิกถอน ฉันไม่มีปัญหา แต่ต้องไปพิสูจน์ถูกผิดกันตามกฎหมาย ถ้าออกมาว่า เป็นป่าจริง ฉันยินดีคืนที่ให้ แต่อย่ามากล่าวหาว่า ครอบครัวฉันโกงบ้านโกงเมืองเด็ดขาด”