4 เมษายน 65 ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ ซอยอารีย์ พหลโยธิน ร่วมกับผู้สมัคร ส.ก. เบอร์ 1 นายเมธวิน อังคทะวานิช พร้อมด้วย ปริญญ์ พานิชภักดิ์ ผอ.ศูนย์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ สก. พรรคประชาธิปัตย์ ดร.ธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์ นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค
พร้อมกับให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงจำนวนผู้สนใจลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในครั้งนี้ว่า ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย ตนก็จะต้องขยัน ขยัน ขยัน อย่างเดียว และต้องทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความมั่นใจในนโยบายที่ได้ประกาศออกไปว่าทำได้จริง
และมั่นใจว่ากรุงเทพฯ ต้องเปลี่ยนเมืองสวัสดิการที่ทันสมัย ต้นแบบของอาเซียนให้ได้ ไม่อยากให้ปัญหาซ้ำซากนี้ต้องไปถึงผู้ว่าฯ คนต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงสิ่งแรกที่ดร.สุชัชวีร์” ต้องการทำเป็นสิ่งแรก เมื่อได้รับตำแหน่งผู้ว่ากทม. ดร.สุชัชวีร์” ตอบว่า “สิ่งแรกที่ผมต้องทุ่มเทกำลังแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนคือเรื่อง โควิด-19 เพราะหากแก้ปัญหานี้ จะแก้ได้อีก 4 เรื่องทันที คือ
1. เรื่องเศรษฐกิจ 2. เรื่องการท่องเที่ยว 3. เรื่องกำลังพลบุคลากรทางการแพทย์ 4. เรื่องงบประมาณในการพัฒนาด้านอื่น เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องเร่งด่วน สำคัญที่สุด”
การลงพื้นที่วันนี้ ดร.สุชัชวีร์ ได้พบทีมงานที่กำลังติดป้ายหาเสียง จึงได้ให้คำแนะนำด้วยตัวเอง พร้อมกับระบุว่า ป้ายหาเสียงของตนยังมีจำนวนน้อยอยู่ แต่ได้ทำไว้หลายรูปแบบให้เหมาะสมกับยุคสมัย ซึ่งป้ายหาเสียงขนาดเล็กนั้นมีใช้มานานแล้ว ซึ่งของตนก็มีแต่ยังไม่ได้ติด
พร้อมกับได้กำชับทีมงานให้ระมัดระวังการติดตั้งป้ายไม่ให้กีดขวางจราจร ส่วนเรื่องการถูกทำลายป้ายหาเสียงนั้น เนื่องจากป้ายของเรายังไม่เยอะ ทำให้ยังไม่พบปัญหาดังกล่าว
“เราต้องเห็นตรงกันก่อนว่า ‘คนเดินเท้า’ ในกทม. สำคัญที่สุด การติดตั้งป้ายหาเสียง ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และวิสัยทัศน์ของคนเดินเท้า ต้องไม่บังทางข้าม ทางม้าลาย ต้องไม่กีดขวางทางสัญจร
แม้ว่าผมจะไม่สามารถตรวจดูได้ทุกป้าย แต่หากพี่น้องประชาชนพบเห็น ป้ายของผมมีการติดตั้ง กีดขวาง หรืออาจจะก่อให้เกิดอันตราย ให้แจ้งเข้ามาทางช่องทางติดต่อ ทางไลน์ ก็ได้ เฟซบุ๊คก็ได้ จะรีบดำเนินการแก้ไขทันที”
ดร.สุชัชวีร์ กล่าวอีกด้วยว่า แม้ในการเลือกตั้งใหญ่พรรคประชาธิปัตย์จะไม่มี ส.ส.ในกรุงเทพฯ เลย แต่จากการลงพื้นที่ครบ 50 เขตไปแล้ว รู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะประชาชนให้การต้อนรับจริงๆ เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนจะกลับมาให้การสนับสนุน
“ผู้ว่าฯ กทม. ทำงานคนเดียวไม่ได้หรอก ผมชัดเจนว่าผมลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคก็ส่ง ส.ก. 50 เขต 50 คน ผมมีอิสระในเรื่องนโยบาย วิสัยทัศน์
กรุงเทพฯ ต้องเป็นเมืองสวัสดิการที่ทันสมัย ต้นแบบอาเซียน ส.ก. ทั้ง 50 คน 50 เขต เราไปด้วยนโยบาย วิสัยทัศน์เดียวกัน กลัดกระดุมเม็ดแรก ด้วยคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดแข็ง เมื่อเป็นผู้ว่าฯ ก็จะทำงานได้ ผู้ว่าฯ บวก ส.ก. 50 คน เปลี่ยนกรุงเทพ เราทำได้”
“ผมลงพื้นที่ไป 50 เขต ได้รับการต้อนรับที่ดีจากทุกวัย มีแฟนคลับหลายรุ่นตั้งแต่รุ่นเด็ก จนถึงรุ่นคุณยาย และทุกครั้งที่ลงพื้นที่ก็พบว่าคนไทยใจดี บรรยากาศแบบนี้หาที่ไหนไม่ได้ในโลก ทำให้มีความมั่นใจว่าพี่น้องประชาชนให้การต้อนรับอย่างดี ส่วนเรื่องโพลก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ยิ่งเป็นรองก็ต้องยิ่งขยันมากยิ่งขึ้น”