ระหว่างวันที่ 26 - 28 ธันวาคม 2550 นายพรชัย โควสุรัตน์ ขณะดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี (นายก อบจ.อุบลราชธานี) ได้สั่งซื้อครุภัณฑ์ ภายใต้การอุดหนุนงบประมาณจาก กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ตามโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากองค์การค้าของสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือ องค์การค้าของ สกสค. แจกจ่ายให้กับโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ตามสัญญาซื้อขายเลขที่ 8/2551 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2550 วงเงิน 9,985,000 บาท โดยวิธีพิเศษ
องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี "ผู้ซื้อ" ได้จ่ายเงินล่วงหน้า 50% ให้แก่องค์การค้าของ สกสค. "ผู้ขาย" เป็นเงิน 4 ล้านบาทเศษ โดยที่ไม่มีหลักประกันในการชำระเงินล่วงหน้าแต่อย่างใด
นอกจากนี้ สินค้าที่สั่งซื้อจากองค์การค้าของ สกสค. ก็ไม่ได้เป็นผู้ผลิต แต่เป็นสินค้าของบริษัท อินเทลเลคท์ จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ทําสัญญา "ฝากขายสินค้า" และ "สัญญาความร่วมมือทางการค้า" กับ องค์การค้าของ สกสค. โดยองค์การค้าของ สกสค. จะได้รับบําเหน็จตอบแทนการขาย ในอัตราร้อยละ 5 ของยอดราคาจําหน่าย
นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ในชั้นการไต่สวนพยานหลักฐานของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาจากคำพิพากษาศาล ประกอบ และได้ข้อเท็จจริงว่า นายพรชัย มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า ต้องการจัดซื้อครุภัณฑ์ส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี "ด้วยวิธีพิเศษ"
โดยกําชับให้จัดซื้อโดยตรงกับองค์การค้าของ สกสค. เป็นการเร่งด่วน และ นายพรชัย เป็นผู้แนะนําให้ติดต่อประสานงานกับบุคคลชื่อ ต. หรือ ข. ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัท อินเทลเลคท์ จํากัด
การที่นายพรชัย จัดซื้อโดยวิธีพิเศษนั้น ไม่มีกฎหมาย หรือมติคณะรัฐมนตรีกําหนดให้จัดซื้อได้ จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2535 ข้อ 15 และข้อ 19 และเป็นการเสียหายแก่รัฐและองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์
คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงชี้มูลความผิดอาญา กับนายพรชัย
อย่างไรก็ตาม มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
ต่อมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ซึ่งเป็นศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุก นายพรชัย 20 ปี ไม่รอลงอาญา
ศาลอุทธรณ์ นัดอ่านคำพิพากษาวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 แต่ นายพรชัย หลบหนี ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 สั่งออกหมายจับ และปรับนายประกัน
สำหรับ นายพรชัย ที่หลบหนีไป อายุความจะหยุดไว้จนกว่าจะตามตัวมาดำเนินคดี จึงจะเริ่มนับอายุความต่อตามกฎหมายใหม่
สำหรับ นายพรชัย นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างหลบหนีโทษจำคุก 20 ปี และ 2 ปี จากคดีทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์ส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี งบอุดหนุนจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 2550 ที่มีองค์การค้าของคุรุสภา
ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และคดีทุจริตก่อสร้างสะพาน วงเงิน 2.7 ล้านบาท ตามลำดับ และยังมีคดีค้างที่อยู่ระหว่างการสอบสวนจาก ป.ป.ช. อีกกว่า 25 คดี
วันที่ 27 ธันวาคม 2564 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ "ลับหลัง" อดีตนายก อบจ.อุบลราชธานี พรชัย โควสุรัตน์ ในฐานะจำเลยที่ 2 คดีทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์ส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืน ให้จำคุก นายพรชัย เป็นเวลา 20 ปี ไม่รอลงอาญา
ส่วนคดีทุจริตก่อสร้างสะพาน วงเงิน 2.7 ล้านบาท ศาลอุทธรณ์ก็มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี สำหรับจำเลยอีก 1 ราย ให้ยกฟ้อง
นอกจากนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ยังได้สั่งออกหมายจับ นายพรชัย มารับโทษตามคำพิพากษาทั้ง 2 คดี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา นายพรชัย หลบหนี ไม่มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ครั้งแรก และได้สั่งออกหมายจับตัวนายพรชัย ให้มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 27 ธันวาคม 2564 แต่ยังไม่ได้ตัว นายพรชัย มา ขณะที่หมายจับดังกล่าวหมดอายุไปแล้ว