วันนี้ (13 เม.ย.65) เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้เผยแพร่คำวินิจฉัยให้มีการเลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง) นางขวัญเรือน เทียนทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว (นายกอบจ.สระแก้ว) โดยให้สำนักงานกกต.ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ให้พิจารณาสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกอบจ.สระแก้วใหม่
และสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายบุญเรือง ขุนหาญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามพ. ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสอง และให้ดำเนินคดีอาญา นายบุญเรือง ตามมาตรา 65 วงเล็บ 1 ประกอบมาตรา 126 วรรค 1
เนื่องจากกกต.เห็นว่า พยานผู้ร้องและมารดาพยานซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เดียวกันต่างยืนยันว่า วันที่ 19 ธ.ค.63 เวลา 07:00 น นายบุญเรือง ได้มาที่บ้านของพยานผู้ร้องและมารดา โดย นายบุญเรือง ได้กล่าวข้อความตามปรากฏในคลิปวีดีโอประกอบคำร้องว่า "ทั้งสองสามคนนี่นะ มีใครอยู่ไอ้นั่น ไอ้นั่นของพ่อมัน" "ฝากเบอร์ 3 ด้วยนายก" "...เทียนทองให้ค่าน้ำมันรถคนละ 200" "ให้ค่าน้ำมัน เอาไป มีอะไร เดี๋ยวไปหาผู้ใหญ่ได้เลย"
เข้าลักษณะเป็นการจัดทำให้เสนอให้สัญญาว่าจะให้ หรือ เตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์ไปลงคะแนนให้แก่ นางขวัญเรือน ไม่ใช่การพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับจำนวนสุนัขและแมว ตามที่นายบุญเรืองกล่าวอ้าง
แม้ นางขวัญเรือน ให้ถ้อยคำว่าไม่ได้กระทำการตามที่ถูกกล่าวหา ไม่รู้จักกับ นายบุญเรือง ไม่ทราบข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคลิปวิดีโอดังกล่าว ก็เป็นการกล่าวอ้างโดยไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวอ้าง ซึ่งการกระทำของ นายบุญเรือง ส่งผลให้ นางขวัญเรือน ได้รับประโยชน์ในการเลือกตั้ง
เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้วในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ นางขวัญเรือน เกิดจากการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรมตามพ.ร.บเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสอง
ขณะเดียวกัน กกต.กรณีมีมติให้ใบเหลือง นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี (นายกอบจ.สุราษฎร์ธานี) โดยให้สำนักงาน กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์เพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานีใหม่ ตามพ.ร.บเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสอง
ทั้งให้ดำเนินคดีอาญากับ นางปรีดา สมบุญศรี น.ส.วาสนา ระฆังทอง นางบุญช่วย ลาดบูลย์น.ส.อรเพ็ญ กลางนุรักษ์ ผู้ช่วยหาเสียง ตามมาตรา 65(1) ประกอบมาตรา 126 วรรค 1
โดยกกต.เห็นว่า ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า วันที่ 6 ธ.ค.63 น.ส.อรเพ็ญ นางปรีดา น.ส.วาสนา ให้เงินคนละ 100 บาท และนางบุญช่วย ให้เงิน1,000 บาท แก่ผู้อุปสมบท ในงานอุปสมบทที่วัดสุทธาวาส หมู่ 2 ต.โมถ่าย อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
และได้โพสต์ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวในบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "อรเพ็ญ กลางนุรักษ์ " พร้อมทั้งข้อความว่า "หาเสียงแห่นาคทุกอย่างทำด้วยใจ รักเต็มร้อยไปเลยค่ะ เบอร์ 6 สู้ๆค่ะ เข้าทุกประตูบ้านค่ะ วันนี้หมู่ 4 หมู่ 6" เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ นายพงษ์ศักดิ์
เข้าลักษณะเป็นการจัด ทำให้เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณ เป็นเงินได้แก่ผู้ใดและช่วยเหลือเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ให้แก่ผู้ใดตามปกติประเพณีต่างๆ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนอยู่พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นมาตรา 65 ( 1) และระเบียบกกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียง และลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2563 ข้อ 23(5)
แม้ นายพงษ์ศักดิ์ จะให้ถ้อยคำว่า ไม่รู้จัก และบุคคลทั้ง 4 ไม่ได้เป็นผู้ช่วยหาเสียงของตนเองตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว แต่ก็เป็นการอ้างโดยไม่มีพยานหลักฐานมาสนับสนุน ซึ่งการกระทำของบุคคลทั้ง 4 ส่งผลให้ นายพงษ์ศักดิ์ ได้รับประโยชน์ในการเลือกตั้ง เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งนายกอบจ.สุราษฎร์ธานี ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ นายพงษ์ศักดิ์ เกิดจากการเลือกตั้งที่ไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม