วันนี้ (14 ก.พ.65) เว็บไซด์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เผยแพร่คำวินิจฉัยกกต.ให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ หรือ ศาลอุทธรณ์ภาคเพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) กาฬสินธุ์ใหม่ แทน นายชานุวัฒน์ วรามิตร ตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสอง และให้ดำเนินคดีอาญากับนายอนุชา สิงหะดี ตามมาตรา 65 ( 1)ประกอบมาตรา 126 ของกฎหมายเดียวกัน
เนื่องจากจากการไต่สวน และพยานหลักฐานพบว่า วันที่ 19 ธ.ค.63 เวลา 13:00 น ซึ่งเป็นวันก่อนวันเลือกตั้ง 1 วัน และอยู่ในระยะเวลาที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สามารถหาเสียงเลือกตั้งได้ นายอนุชา ซึ่งเป็นผู้ช่วยหาเสียงของ นายชานุวัฒน์ และเป็นผู้ใช้บัญชีชื่อ "อนุชา สิงหะดี Anucha singhadee" โพสต์ข้อความว่า
"#ประกาศ:ที่น้องในทุกพื้นที่ท่านใดอยากได้ป้ายผู้สมัครนายกอบจ.เบอร์ 1 ชานุวัฒน์ วรามิตร ที่ติดตั้งอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วจังหวัดกาฬสินธุ์ ท่านสามารถรื้อนำเอาไปใช้ประโยชน์ได้ครับ หากท่านมีความประสงค์ เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งทีมงานผู้สมัครทุกเบอร์ก็กำลังดำเนินการเก็บป้ายครับ"
และได้แชร์โพสต์ดังกล่าวไปยังบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ "อนุชา สิงหะดี" อีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งมีการโพสต์แสดงความคิดเห็น และเข้ามากดถูกใจจำนวนมาก โดยจากพยานหลักฐานของผู้ร้อง มีผู้ที่เข้ามากดถูกใจจำนวน 473 ครั้ง และมีการเผยแพร่ข้อมูลต่อไปจำนวน 26 ครั้ง
การโพสต์ข้อความดังกล่าวมีผู้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการขอเก็บแผ่นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้แก่ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ "D-max Work Shop" ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ "คนลำปาว พอเพียง เพียงพอ (Natthapon)" ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ "สุกัญญา ศรีไพวรรณ" ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ" ตะวันฉาย" และผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ "ตะวัน สินมา" โดยทุกคนเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์
การกระทำของนายอนุชา จึงเป็นการแสดงเจตนาให้แผ่นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งของนายชานุวัฒน์ แก่ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ซึ่งได้ติดตามและกดถูกใจสมาชิกหรือเพื่อนในเฟซบุ๊ก รวมทั้งบุคคลอื่นที่เห็นโพสต์ข้อความดังกล่าว ซึ่งเข้าลักษณะเป็นการจัดทำ ให้ เสนอให้สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้กับนายชานุวัฒน์ และ นายชานวัฒน์ ย่อมได้รับประโยชน์ในการเลือกตั้งจากการกระทำของนายอนุชา ซึ่งนายอนุชาเป็นผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง
อีกทั้ง นายชานุวัฒน์ ให้ถ้อยคำรับว่า ได้ใช้ชื่อของ นายอนุชา ในการหาเสียงเลือกตั้งของตนและต่อมานายชานุวัฒน์ ได้แต่งตั้งให้ นายอนุชาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษนายกอบจ.กาฬสินธุ์ ด้านสื่อสารมวลชนตามคำสั่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ 87/2564 ลงวันที่ 19ก.พ.64
จึงปรากฎหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่านายอนุชา จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นายชานุวัฒน์ ซึ่งเป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งนายกอบจ.กาฬสินธุ์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนายชานุวัฒน์เกิดจากการเลือกตั้งที่ไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรมตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสอง