เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (17 เม.ย.2565) ดร. เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่เขตลาดกระบัง พร้อมกับ น.ส. มารีญา ฤกษ์ดี ผู้สมัคร ส.ก. หมายเลข 6 โดยได้ไปเดินแนะนำตัวที่ ตลาดเกรียงไกร ซึ่งในอดีตมีความคึกคักมากกว่าปัจจุบัน เพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยและโรงเรียน ถือว่าเป็นศูนย์กลางของเขตลาดกระบัง ปัจจุบันการค้าเฉาลงไปมาก
หลังจากเดินแนะนำตัวที่ตลาดเกรียงไกร “เอ้ สุชัชวีร์” ได้ขึ้นรถแห่ พร้อมได้ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตนมาเรียนหนังสืออยู่เขตลาดกระบังตั้งแต่จบ ม. 6 ได้ใช้ชีวิตอยู่หลายปี ต้องประสบปัญหาน้ำท่วม น้ำเน่า เพราะไม่มีใครตั้งใจแก้ปัญหาให้คนลาดกระบัง ตั้งแต่ยังเด็ก จนโต จนมีลูก เกิดมาก็เห็นน้ำท่วม
วันนี้ก็ยังน้ำท่วม เท่านั้นไม่พอน้ำเน่า เห็นโรงบำบัดตรงร่มเกล้ามั้ย สามารถบำบัดน้ำเน่าได้มากกว่านี้ตั้งหลายเท่า แต่น้ำเสียไม่เคยไปถึง มีใครมาดูแลพี่น้องประชาชนบ้าง ตั้งแต่ร่มเกล้าจนถึงวัดพลมานีย์ น้ำท่วมครึ่งแข้ง ถึงเข่า มีใครมาแก้ปัญหาน้ำท่วมลาดกระบังให้บ้าง ในอนาคตถ้าไม่ทำ เขตลาดกระบังเป็นเขตที่มีดินทรุดมากที่สุด ดินยิ่งทรุด น้ำยิ่งท่วม ต่อไปเราจะอยู่ยังไง นโยบายที่หาเสียงอื่นไม่ต้องพูดกันแล้ว ถ้าลาดกระบังน้ำท่วมอย่างนี้เรื่องอื่นไม่ต้องพูดกันแล้ว
“ผมตั้งใจด้วยความรู้ ด้วยประสบการณ์ ด้วยความสามารถทั้งหมด และผมเป็นคนในพื้นที่รู้ว่าปัญหา กทม. เป็นยังไง โดยเฉพาะเขตลาดกระบัง ถ้าคิดว่าคนอื่นจะทำได้ มันก็น่าจะทำได้มาตั้งนานแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเปลี่ยนกรุงเทพ เปลี่ยนให้คนใช้เทคโนโลยี ใช้ความรู้ ความเข้าใจมาแก้ปัญหาให้พี่น้องจริงๆ ไม่ใช่สักแต่พูด พูดแล้วแก้ปัญหาไม่ได้ วันนี้รอคนทำได้
กราบขอโอกาสจริงๆ วันนี้เจอมาทุกเรื่องทุกราวแต่สู้ สู้เพราะไม่อยากเห็นน้ำท่วมลาดกระบัง ลูกผมก็ยังเล็ก จะให้น้ำท่วมถึงลูกถึงหลานแบบนี้เหรอ ต้องเปลี่ยนใช่มั้ย ผมตั้งใจจริงๆ และมั่นใจว่าเปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้
มั่นใจว่าเปลี่ยนลาดกระบังให้น้ำไม่ท่วม น้ำไม่เน่า และมีโรงพยาบาลที่ดี ทั้งโรงพยาบาลของเขตลาดกระบัง และโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ที่ดูแลพี่น้องจริงๆ วันนี้เลือกเบอร์ 4 แล้วท่านไม่ผิดหวัง”
พร้อมกับเสนอนโยบาย ให้ กทม. ต้องสว่างไสวด้วยไฟแอลอีดี พร้อมด้วยนโยบายไวไฟฟรี 150,000 จุด ทั่ว กทม. นอกจากให้ลูกๆ และพี่น้องประชาชนได้ใช้งานแล้ว กทม. ยังได้ใช้เชื่อมโยงกล้อง CCTV วงจรปิดทั่ว กทม. เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เป็นหูเป็นตาดูแลกันได้
การบริการของ กทม. จะขึ้นมาอยู่บนมือถือ ไม่ต้องเสียเวลา เสียโอกาสทำมาหากิน ถึงเวลาแล้ว กทม. ต้องเปลี่ยน และยิ่งเดินยิ่งมั่นใจ #เราทำได้
ทั้งนี้ “ ดร.เอ้ สุชัชวีร์” ยังได้แนะนำ น้องดาหวัน น.ส.มารีญา ฤกษ์ดี ผู้สมัคร ส.ก. เบอร์ 6 โดยขอให้ชาวเขตลาดกระบังสนับสนุนคนรุ่นใหม่ สนับสนุนคนใหม่ๆ เพราะถ้าเลือกแบบเดิม ปัญหาก็น่าจะแก้ไขได้ตั้งแต่เมื่อวาน หรือตั้งแต่ 4 ปี 5 ปี 10 ปีที่แล้ว แสดงว่าอะไรแบบเดิมนั้นไม่ได้แล้ว
“ด้วยความรักและความจริงใจ ผมอยากเห็นบ้านนี้เมืองนี้มันดีขึ้น แต่ถ้ายังคิดแบบเดิม ทำแบบเก่า มันก็น่าจะดีมาตั้งนานแล้ว แต่ลาดกระบังน้ำก็ท่วม สาธารณสุขก็ยังไม่ดี ความปลอดภัยก็ยังไม่มี แบบนี้ก็ต้องเปลี่ยนใช่มั้ย วันที่ 22 พฤษภาคมนี้ คนลาดกระบัง ขอมาเลือกผู้ว่าฯ เบอร์ 4 ที่มีความตั้งใจที่จะเอาศักยภาพทั้งหมดของชีวิต มาเปลี่ยนกรุงเทพฯ
และผู้ว่าฯ ทำงานคนเดียวไม่ได้ ส.ก. ทั้ง 50 เขต 50 คน มีความมุ่งมั่น และ มารีญา เกิดที่นี่ มีความตั้งใจทำงาน มีความมุ่งมั่น อยากให้ทุกท่านให้โอกาสคนรุ่นใหม่ คิดว่าเป็นลูกสาวคนนึงของเคหะร่มเกล้า ของคนลาดกระบัง ถ้าไม่สนับสนุนลูกสาวของคนที่บ้าน แล้วจะสนับสนุนใคร ช่วยมารีญา ฤกษ์ดี ผู้สมัคร ส.ก. เบอร์ 6 และสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ เบอร์ 4”
หลังจากนั้นได้ลงไปเดินแนะนำตัวต่อที่ ตลาดตะวันนา และตลาดรุ่งเจริญต่อไป ซึ่งในวันนี้ “เอ้ สุชัชวีร์” มีพ่อค้าแม่ค้า ผู้คนเดินตลาดเข้าทักทาย ขอลายเซ็น พร้อมขอถ่ายรูปคู่ ส่งกำลังใจให้สู้ๆ ตลอดทั้งเส้นทาง