นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์กรณีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีอนาจารฯ และล่วงละเมิดทางเพศในหลายคดี เนื่องจากมีผู้เสียหายหลายรายว่า
เรื่องภายในพรรคต้องถามฝ่ายบริหารพรรค ตนไม่ขอไปก้าวล่วง และคิดว่าปัญหาภายในพรรคการเมืองเป็นเรื่องที่มีได้เสมอ แต่มีน้อยที่สุดจะดีกว่า ทั้งนี้พรรคประกอบไปด้วยคนก็หนีไม่พ้นที่จะต้องมีปัญหาอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย จึงเป็นหน้าที่กรรมการบริหารพรรคต้องดูแลรับผิดชอบ
เพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อชื่อเสียงของพรรคและกระทบต่อความรู้สึกของผู้สนับสนุน เรื่องนี้จึงจำเป็นที่กรรมการบริหารพรรคต้องชี้แจง เพราะหลายเรื่องบางทีการไม่ชี้แจงจะยิ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิด
"ส่วนตัวไม่มีบทบาทในการเข้าไปแทรกแซงหรือตัดสินใจอะไร แต่ก็ให้คำแนะนำว่าเรื่องอะไรก็ตามที่เมื่อมามีปัญหาเกิดขึ้นในพรรคก็พยายามยึดหลักไว้ว่าเราเป็นพรรคการเมืองที่ยึดเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต และความถูกต้องเป็นหลัก ต้องยีดหลักนี้ไว้
และเมื่อมีอะไรต้องพยายามหาโอกาสชี้แจง เพราะหลายเรื่องผมดูแล้วมีความเข้าใจผิด ผู้จัดรายการในโทรทัศน์ บางทีก็ไม่ค่อยตรงนัก ดังนั้นถ้ามีโอกาสก็อยากให้พรรคชี้แจง"
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้น จะกระทบต่อภาพรวมของพรรค นายชวน กล่าวว่า ไม่มีเรื่องอะไรที่ไม่กระทบ เวลาคนพูดเรื่องดีก็กระทบในทางที่ดี พอเรื่องที่ไม่ปกติก็กระทบในทางที่ลบ แต่ก็เชื่อหลักอันหนึ่งว่าพรรคประชาธิปัตย์ยึดความถูกต้อง เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่จะอยู่เหนือกฎหมาย ขอให้มั่นใจว่าพรรคยึดหลักนี้มาตลอด
จนกระทั่งเคยมีคำหนึ่งตอนที่ตนเป็นนายกฯว่าเราไม่สามารถที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีเหมือนกันหมดได้ แต่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งความจริงเรื่องนี้เป็นสาระสำคัญมากในระบอบประชาธิปไตยแบบของเรา
ถ้ากฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ประชาธิปไตยก็ไปไม่รอด ถ้าไปได้ก็ติดหล่ม ลุ่มๆดอนๆ ดังนั้นความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายเป้นเรืองสำคัญ ถูกหรือผิดก็ต้องว่าไปตามนั้น
เมื่อถามว่ามีการเรียกร้องถึงขั้นให้กรรมการบริหารพรรคแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกทั้งคณะ นายชวน กล่าวว่า ต้องไปสอบถามกรรมการบริหารพรรค
เมื่อถามว่า ตามข้อบังคับพรรคเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมสามารถย้อนตรวจสอบกลับไปได้หรือไม่ แม้เขาจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว นายชวน กล่าวว่า ตามข้อบังคับพรรคมีอยู่แล้ว เพราะพรรคประชาธิปัตย์ถือเป็นพรรคที่ยึดหลักนี้อยู่แล้ว
เราจะเห็นว่าเมื่อเวลามีรัฐมนตรีถูกร้องเรียน ทั้งที่ไม่จริง แต่มีการกล่าวหาเข้ามาทางพรรคก็ต้องพิจารณา เช่นให้ออกไปก่อนและสอบภายหลัง ปรากฎว่าไม่มีความผิด ตนคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นแบบอย่างของการปฏิบัติเรื่องนี้ตลอดมา
"ผมอยากเรียนว่าท่านศุภชัย พานิชภักดิ์ และครอบครัวก็ดี ถึงแม้ท่านศุภชัยจะเคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีก็ตาม แต่ไม่ใช่เป็นนักการเมืองที่มีอิทธิพลที่จะไปกลั่นแกล้งหรือทำอะไรให้บ้านเมืองผิดปกติ ผมรู้จักท่านมา ผมเป็นนายกฯ ท่านเป็นรองนายกฯ
ท่านศุภชัยก็ไม่เคยมีปัญหาในทางที่ผิดหรือใช้อิทธิพลใดๆก็ตาม ไม่มี พวกเรามั่นใจได้ว่าขอให้เจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อะไรถูกผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย อย่าไปเกรงใจใคร
และในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ขอให้มั่นใจว่าเราไม่ทำอะไรก็ตามที่จะไปทำให้ถูกเป็นผิดหรือผิดเป็นถูก และไม่ไปบังอาจไปคุกคามเจ้าหน้าที่ เราไม่ทำ ขอให้มั่นใจได้"นายชวน กล่าว