วันนี้(20 เม.ย.65) ที่แกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 โดยมีวาระสำคัญ 5 เรื่องประกอบด้วย รายงานการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปี 2564 รายงานงบการเงิน การแก้ไขข้อบังคับพรรค การเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และการเลือกตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.
ภายหลัง นายอุตตม สาวนายน ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2565 ที่ผ่านมาที่ตนและคณะผู้ก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะทำงานให้กับบ้านเมืองเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนคือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจและการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับการพัฒนาประเทศ
จนถึงขณะนี้เราทำงานกันอย่างหนัก ผ่านการรับฟังปัญหาจากทุกภาคส่วน และเปิดเวทีระดมความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่ชุดความคิดใหม่ เพื่อรองรับนโยบายและขับเคลื่อนที่นโยบายให้เป็นรูปธรรมให้มากที่สุด และเชิญผู้ร่วมอุดมการณ์จากหลายภาคส่วน เพื่อมาทำงานร่วมกัน
นายอุตตม กล่าวว่า นับจากนี้ไปตนและทีมงานพรรคสร้างอนาคตไทย จะขับเคลื่อนเพื่อให้พรรค เป็นสถาบันการเมืองที่มั่นคง เป้าหมายสูงสุดอันดับแรกในการทำพรรคการเมืองครั้งนี้คือ การแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากหลากหลายมิติ ทั้งเศรษฐกิจและปากท้อง ทั้งการเผชิญภาวะของแพงรายได้ตกต่ำ คนจนลง
ในขณะที่คนส่วนน้อยเพียงบางกลุ่มมีโอกาสที่จะรวยขึ้นจากภาวะวิกฤตซ้ำซ้อน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เป็นการตอกย้ำเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างเคยอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
วันนี้เรามองไม่เห็นอนาคตดีๆ สำหรับลูกหลานเลย ทำอย่างไรคนไทยจะหยุดจากวงจรความยากจนได้ และมีโอกาสที่เท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากรมีที่ทำกิน มีโอกาสที่จะเข้าถึงสวัสดิการที่สมควรได้ เช่น การศึกษาที่มีคุณภาพ เป็นต้น และยังมีปัญหาอีกนานัปการ ทั้งเรื่องความยุติธรรมที่ไม่เสมอภาคในสังคม ระบบและโครงสร้างรัฐราชการที่ไม่สามารถตอบโจทย์เสนอความต้องการและความจำเป็นของพี่น้องประชาชนที่กำลังประสบปัญหาได้ เพราะไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างมานาน
หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่า ปัญหาที่เราอาสามาแก้ไขไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะถ้าง่ายวันนี้ ผู้ที่มีอำนาจในปัจจุบันหรือในอดีตก็สามารถแก้ไขเรียบร้อยไปแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่ประชาชนจะได้มีพรรคการเมืองทางเลือกที่เป็นที่พึ่งได้สักครั้งหนึ่ง นี่คือเหตุผลที่เรามาร่วมกันทำพรรคสร้างอนาคตไทย เพื่ออาสาเสนอทางออก และเสนอชุดความคิดใหม่เพื่อนำไปสู่นโยบายและแนวปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม
ตนเชื่อว่าทุกคนที่มาร่วมทำงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย ไม่ได้เข้ามาแสวงหาอำนาจ และเราก็ไม่เคยแสวงหาไขว่คว้าหาอำนาจนั้น หากคนที่อยู่ในแวดวงการเมืองวันนี้ สามารถแก้ไขปัญหาให้รู้ล่วงไปได้ เราก็ไม่จำเป็นต้องมาทำงานการเมือง
เราต้องการสร้างพรรคสร้างอนาคตไทย ให้เป็นองค์กรที่เปิดกว้างของประชาชน พร้อมที่จะรับฟังความต้องการของทุกภาคส่วน ทั้งที่เห็นพร้องและทั้งที่เห็นแตกต่างกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของส่วนรวม
พรรคสร้างอนาคตไทย จะเป็นพรรคที่ทำงานอย่างจริงจัง ไม่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน หรือพวกพ้อง โดยมีชุดนโยบาย 5 สร้างคือ
1.สร้างเศรษฐกิจฐานรากไทยให้เข้มแข็งและทันสมัย
2.การสร้างเศรษฐกิจใหม่หรือโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต
3.สร้างคนและวิทยาการที่พร้อมที่จะก้าวสู่สังคมโลกแห่งอนาคต
4.สร้างสังคมที่เป็นธรรมและเกื้อกูล
และ 5.สร้างการเมืองที่สร้างสรรค์
เพราะที่ผ่านมาเราติดกับดักการแย่งชิงอำนาจ คือเมื่อเข้าสู่อำนาจแล้วก็จะยึดติด และพยายามสืบทอดอำนาจ ก่อให้เกิดความร้าวฉาน และแบ่งพรรคแบ่งพวก นำไปสู่ภาวะชะงักชะงันในการบริหารราชการประเทศ
พรรคสร้างอนาคตไทย จะขอยืนเคียงข้างกับประชาชนและปฏิเสธการเมืองเช่นนี้ โดยจะสร้างพลังบวกให้การเมืองไทยเพื่อตอบโจทย์ แก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศ เราจะทำงานการเมืองโดยยึดถือประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก
และจะยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ร่วมกันสร้างระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงบนพื้นฐานของจิตอาสา ช่วยกันหยุดประชาธิปไตยเทียม ที่ยึดอยู่กับการตอบสนองผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติและส่วนรวม
นายอุตตม กล่าวว่า ส่วนบัตรประชารัฐที่ใช้อยู่นั้น เราเป็นผู้ริเริ่มคิดขึ้น ซึ่งเราก็อยากจะเข้าไปต่อยอดให้ดีกว่าเดิม รวมถึงแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง ระบบพร้อมเพย์ ที่เราเป็นคนริเริ่มใช้ก็ประสบความสำเร็จ และยังใช้เป็นเครื่องมือเยียวยาประชาชนอยู่
ส่วนโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก หรืออีอีซี เราก็เป็นผู้ริเริ่มเพื่อเป็นพื้นที่สนับสนุนการลงทุนทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ให้สอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนานำพาประเทศให้ก้าวทันโลก แต่ด้วยเงื่อนไขทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่ได้ทำงานมาระยะหนึ่ง ไม่สอดคล้องกลับความตั้งใจของเราที่จะเข้าไปทำงาน เราจึงก้าวออกจากวงการการเมือง
“จากนี้ไปเป็นการนับหนึ่งพรรคสร้างอนาคตไทย อย่างเต็มอัตรา โดยเราจะเสนอ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคสร้างอนาคตไทย เพราะสามารถเป็นผู้นำประเทศในอนาคตได้”
ส่วนคำถามที่ว่าเราจะสู้พรรคการเมืองเก่าได้หรือไม่นั้น นายอุตตม กล่าวว่า ผมเชื่อว่าตรงนั้นเป็นความคิดการเมืองแบบเก่า วันนี้ประชาชนเปลี่ยนไปแล้ว สามารถแยกแยะได้ว่า นี่คือการยึดติดกับการเมืองไม่สร้างสรรค์มากกว่าที่จะมุ่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชน จะทำให้ประเทศไทยไม่ไปไหน และการเมืองติดหล่มสังคมมีแต่ความขัดแย้งวันนี้
“จึงเป็นหน้าที่ของพรรคสร้างอนาคตไทย โดยการเสนอชุดความคิดใหม่และเสนอนโยบายเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อสร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชนและโอกาสของประเทศ" นายอุตตม กล่าว
ด้าน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ กรรมการบริหารพรรคสร้างอนาคตไทย ขึ้นกล่าวหลังได้รับตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคสร้างอนาคตไทยว่า ขอบคุณคณะผู้บริหาร และ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นคนเชิญตนเองมาร่วมงานเมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่าน
ในการพูดคุย 2 ครั้งตนได้แจ้งไปว่า เมื่อเดินออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ตนเสมือนเป็นสิ่งที่ชำรุดทางการเมืองไปแล้ว แต่ ดร.สมคิด หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคบอกว่า ตนยังมีประโยชน์ทางการเมือง จึงขอให้มาช่วยงานฟื้นฟูภาคใต้ โดยใช้คำพูดว่า "ทำภาคใต้ให้หายจน" และตนก็ขอบอกว่าครั้งนี้เป็นการทำสงครามครั้งสุดในในชีวิต แพ้ชนะตนไม่เสียใจเลย เพราะตนกำลังหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนภาคใต้
นายนิพิฏฐ์ กล่าวอีกว่า ในอดีตตนใส่เสื้อแจ็คเก็ตของพรรคประชาธิปัตย์ แต่วันนี้มาใส่แจ็คเก็ตของพรรคสร้างอนาคตไทย ฉะนั้นขออย่าดูที่แจ็คเก็ตที่ใส่ เพราะไม่ว่าจะใส่แจ็คเก็ตไหนก็ตาม หัวใจของตนยังเป็นเหมือนเดิมทุกประการและในฐานะที่เป็นนักกฎหมายก็จะสู้เพื่อสิ่งนี้ให้กับประชาชน