หลังจากพรรคสร้างอนาคตไทย จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2565 พร้อมเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารจำนวน 16 คน โดยมีนายอุตตม สาวนายน เป็นหัวหน้าพรรค และมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นั่งเลขาธิการพรรค
พร้อมเสนอ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคสร้างอนาคตไทย เพราะมองว่า นายสมคิด สามารถเป็นผู้นำประเทศในอนาคตได้
ขณะเดียวกันยังประกาศนโยบาย 5 สร้าง เป็นนโยบายหลักของพรรค เพื่อขับเคลื่อนแก้ปัญหาและสร้างอนาคตประเทศไทย โดยการประกาศนโยบายออกมาทั้งหมด แม้จะไม่ได้สร้างความหวือหวาอะไรมากนัก
แต่ก็ครอบคลุมการแก้ปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ตามแนวทางของการสร้างอนาคตของประเทศไทย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมไทย และความเป็นอยู่ของคนไทย ไปดูรายละเอียดกันว่า นโยบายทั้งหมดมีสาระสำคัญอะไร และครอบคลุมเรื่องไหนเป็นพิเศษบ้าง
1. สร้างเศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็งและทันสมัย
- สร้างความเข้มแข็งให้ฐานรากด้วยเศรษฐกิจที่เหมาะสมกับท้องถิ่น ประยุกต์ภูมิปัญญาถิ่นสร้างโอกาสในชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันทั้งชนบทและเมือง ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรชาวไร่ชาวนา ผู้ใช้แรงงานหรือผู้ประกอบการค้าขายริมทางริมถนนในเมืองกรุง
- ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย การบริหารจัดการที่เหมาะสม การจัดการทรัพยากรเพื่อการพัฒนาอย่างเพียงพอ เศรษฐกิจฐานรากระดับไมโครต้องแข็งแรงทันสมัยทันโลก
2. สร้างภาคเศรษฐกิจใหม่โครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต
- พัฒนาระบบเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) ที่สร้างมูลค่าสูงด้วยแนวคิด BCG คือระบบเศรษฐกิจฐานชีวภาพ มีการหมุนเวียนการใช้ทรัพยากรและเป็นมิตรกับโลก เพื่อทดแทนระบบเศรษฐกิจเก่า ที่สร้างมูลค่าน้อยและเป็นปัญหากับสภาพแวดล้อมไทยและโลก
- สร้างโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต เพื่อเป็นปัจจัยในการสร้างภาคเศรษฐกิจใหม่ให้มีประสิทธิภาพ ปลดปล่อยศักยภาพของประเทศได้เต็มกำลังความสามารถ ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำเพื่อกำหนด กลยุทธ์ในการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ
- สร้างและสนับสนุนให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต เช่น ศาสตร์และศิลป์แห่งการวิเคราะห์ข้อมูล (Data-Analytics และ AI) ซึ่งต้องเริ่มด้วยทำให้คนไทยทุกคน มี Digital Literacy รู้ทันเทคโนโลยีดิจิทัลและสามารถนำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพ
3. สร้างสังคมที่เกื้อกูล เป็นธรรม และยั่งยืน
- สร้างสังคมที่มีความเป็นธรรม คืนความสุขให้คนไทยทุกคน บูรณะวัฒนธรรมพื้นฐานของความเอื้ออาทร เกื้อกูล มีน้ำใจ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ในจิตใจของคนไทยทุกคน
- เสริมพื้นฐานการพัฒนาเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) เพื่อใช้ประโยชน์ของทรัพยากรในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างคุ้มค่าและทำให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีตัวอย่างที่เริ่มต้นในภาคเอกชน เช่น Co-Working Space การใช้พื้นที่สำนักงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การระดมทุนแบบ Peer-to-Peer หรือ Crowdfunding ซึ่งเป็นเศรษฐกิจยุคใหม่ ที่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม
4. สร้างคนและวิทยาการพร้อม ก้าวสู่สังคมโลกแห่งอนาคต
- สร้างคนให้พร้อม สามารถใช้ประโยชน์จากความเปลี่ยนแปลงของบริบทโลก ด้วยเทคโนโลยีในระบบการศึกษาและการศึกษาต่อเนื่อง สร้างพื้นฐานความรู้ที่เข้มแข็งและมีจิตที่พร้อมจะเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นหลักประกันในการยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ
- มุ่งสร้างวิทยาการที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตคนไทย โดยที่สามารถรองรับความเปลี่ยนแปลงและความผันผวนของโลก ทำให้สังคมไทยสามารถปรับตัว ยืดหยุ่นและทนต่อแรงเสียดทาน ทั้งกลับใช้ประโยชน์จากความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. สร้างการเมืองที่สร้างสรรค์พลังบวก
- ดำเนินงานการเมืองโดยยึดถือประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
- ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
- สร้างระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง บนพื้นฐานจิตสาธารณะ หยุดประชาธิปไตยเทียมที่มีเพียงรูปแบบอันหลอกลวงมุ่งสนองประโยชน์ของพวกพ้องและอภิสิทธิ์ชน
- หยุดยั้งการเมืองเชิงทำลายที่มุ่งสร้างความร้าวฉานเพียงเพื่อช่วงชิงอำนาจด้วยเกมการเมือง