นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลจังหวัดฮอด พิพากษาให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เยียวยาให้นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีตส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย พร้อมดอกเบี้ย 70 ล้านบาท เนื่องจากให้ใบส้มในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562
ลักษณะนี้ผู้ที่ต้องชดใช้ให้นายสุรพล คือ คณะกรรมการ กกต. หรือสำนักงานกกต. ว่าเข้าใจว่านายสุรพลไมได้ฟ้องเป็นรายบุคคล แต่ฟ้องในฐานะที่เป็นองค์กร องค์กรนั้นจึงต้องรับผิดชอบ เหมือนฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือแม้กระทั่งกระทรวง หากแพ้คดีมาท้ายที่สุดก็ต้องใช้เงินหลวง แต่อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด กกต.สามารถอุทธรณ์ต่อได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า แปลกใจหรือไม่กับกรณีที่เกิดขึ้น นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีความเห็น แต่กกต.สู้คดีอย่างไรถึงแพ้ ตนยังงงอยู่เหมือนกัน เพราะต้องคิดก่อนที่จะมีคำสั่งออกไป เข้าใจว่า กกต.ต้องเชื่อหลักฐานที่มี แต่นายสุรพลไปงัดเอาหลักฐานอื่นที่เหนือกว่าขึ้นมา สุดท้ายแพ้คดี
ส่วนที่สื่อถามว่าสุดท้ายแพ้คดีใช้เงินใครจ่ายนั้น กกต.แต่ละคนที่ออกคำสั่งไปไม่ได้สั่งโดยเถยจิตหรือเจตนาร้ายเป็นส่วนตัว เป็นการทำในหน้าที่ราชการ เหมือนตำรวจกระทำผิดแล้วเราฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ถ้าแพ้คดี เราจะฟ้องตำรวจไม่ได้ หากแพ้ สตช.ก็ต้องควักเงินจ่าย เพราะถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งแต่ละปีรัฐควักงบประมาณจ่ายเพื่อการเช่นนี้มากอยู่