นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการประชุมพรรค จึงไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องนายกฯสำรอง ตอนนี้ปิดสมัยประชุมสภา ยืนยันว่าในส่วนของกรรมการบริหารพรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องดังกล่าว
เมื่อถามว่า มีการประเมินและเตรียมแผนรองรับไว้หรือไม่หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ถ้าพูดถึงกลไกตามรัฐธรรมนูญก็มีเรื่องของการรักษาการ และเป็นเรื่องที่นายกฯ และรองนายกฯพูดคุยกันแล้ว ถือเป็นเรื่องปกติของการบริหารราชการแผ่นดิน
แต่หากเกิดเหตุการณ์ หรืออุบัติเหตุทางการเมือง ส่วนตัวคิดว่าก็ต้องมาคุยกัน เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจของสมาชิกรัฐสภาที่ต้องมาหาทางออกร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องของพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า อย่าลืมว่าจะต้องมี ส.ว.ร่วมด้วย ส่วนตัวคิดว่าเร็วเกินไปที่จะมาพูด หรือตัดสินใจในเรื่องนี้ คงต้องรอดูเหตุการณ์ตอนนั้น และพูดคุยร่วมกันของสมาชิกรัฐสภา
เมื่อถามว่า ส่วนตัวคิดว่าจะมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นในลักษณะนี้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ คงต้องดูสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอนาคต
เมื่อถามว่า โอกาสที่จะมีนายกฯคนนอกเป็นไปได้หรือไม่ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจริงนายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญแล้วเป็นอำนาจของรัฐสภาที่จะต้องประชุมและลงมติร่วมกัน ส่วนจะผ่านหรือไม่ก็ไม่มีใครทราบ
เมื่อถามว่า ในทางกฎหมายหากมีนายกฯรักษาการจะสามารถชิงยุบสภาได้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ผมนึกไม่ออก เอาไว้เมื่อถึงเวลาก็ค่อยดูแล้วกัน แต่ทุกอย่างคิดว่าต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและทุกคนก็รู้ดีว่าอำนาจการแต่งตั้งนายกฯ เป็นของรัฐสภา คือ ส.ส.และ ส.ว.
จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะต้องมาคุยกันเมื่อถึงเวลานั้น แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา คงไม่มีใครไปนั่งคุยกันว่าจะเอานายกฯใหม่นู่นนี่นั่น เพราะยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์หรือไม่ว่าทำไมจึงมีข่าวเกิดขึ้นในช่วงก่อนเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ถือเป็นเรื่องธรรมดา ก่อนเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ต้องมีฝ่ายค้านและฝ่ายตรงข้ามที่ต้องประโคมข่าว และสร้างประเด็นข่าว หรือสร้างกระแสกดดันมาที่รัฐบาลให้เกิดความไม่เชื่อมั่น
"อยากฝากสื่อมวลชนไปถึงประชาชนว่ารัฐบาลยังคุมเสียงได้ ยังสามารถผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้อย่างแน่นอนและคงทำงานได้ต่อไป เพราะรัฐบาลก็อยากขับเคลื่อนงาน ทั้งเรื่องของงบประมาณการพัฒนาประเทศและการแก้ปัญหาต่างๆ
ปัจจุบันมีปัญหาค่อนข้างมากรัฐบาลก็ต้องการเดินหน้าทำงานและสิ่งสำคัญที่สุดคือความเชื่อมั่นที่จะทำให้รัฐบาลขับเคลื่อนประเทศไปได้ อย่าทำให้วิตกกังวลมากเกินไปจนทำให้รัฐบาลทำงานลำบาก เพราะผลกระทบจะถึงประชาชนในที่สุด" นายชัยวุฒิ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่ารัฐบาลยังสามารถคุมเสียงข้างมากได้อยู่ใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่าก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวการจ่ายค่าหัวให้กับ ส.ส. รายละ 5-30 ล้านบาท เพื่อล้มรัฐบาล นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ต้องไปถามคนที่ให้ข่าวเรื่องนี้ ตนไม่ได้ให้ข่าวจึงไม่ทราบ และยังไม่ถึงเวลาที่รัฐบาลจะต้องเช็กเสียง ส.ส. วันนี้ยังไม่ถึงเวลาโหวตจึงยังไม่ทราบ แต่การพูดถึงเรื่องเงินเรื่องทองในลักษณะนี้ตนก็ฟังมาโดยตลอด แต่ก็ไม่เห็นมีข้อเท็จจริงอะไร
เมื่อถามถึงกรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เดินสายไปรับประทานอาหารร่วมกับพรรคฝ่ายค้านจะมีปัญหาหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของนายพิเชษฐ ซึ่งมีสไตล์เป็นแบบนี้ ท่านอาจจะชอบไปคุยกับคนนู้น สังสรรค์กับคนนี้ ก็คิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว อย่าไปมองว่าเป็นเรื่องของพรรค หรือปัญหาทางการเมือง
เพราะคนออกไปกินข้าวแบบนี้กันเยอะแยะ ตนก็ออกไปกินข้าวกับฝ่ายค้านบ้างเช่นกัน ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเป็นเพื่อนกันบางครั้งก็ไปคุยกันเรื่องงาน บางครั้งก็เป็นคณะกรรมาธิการชุดเดียวกันก็ไปสังสรรค์กันได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่นายพิเชษฐ ท้าให้พรรคพลังประชารัฐขับออก นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่คงไม่ถึงขั้นนั้น นายพิเชษฐยังไม่ได้ทำอะไรผิด แค่ไปพูดคุยกับคนนั้นคนนี้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติทางการเมือง แต่เท่าที่ฟังดูนายพิเชษฐก็ไม่ได้พูดอะไรที่เป็นปัญหา เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ในการทำหน้าที่ของนักการเมืองซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนการพูดพาดพิงไปถึงนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐนั้น ตนไม่ทราบ ต้องไปถามนายสันติเอง
เมื่อถามว่า ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่ ส.ส.ปั่นราคาให้ตัวเองหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ใช้คำนี้มันแรงเกินไป