นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐมีหนังสือเรียกให้ตนไปชี้แจงข้อเท็จจริงและให้ถ้อยคำ ในวันที่ 11 พ.ค.หลังพาดพิงให้พรรคพลังประชารัฐและสมาชิกพรรคทั่วไปเสียหาย ส่อว่าจะขัดต่อข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ว่ายังไม่ได้รับหนังสือ แต่ทราบมาว่ามีคนพยายามจะขับตนออกจากพรรคพลังประชารัฐ แต่ไม่สามารถขับออกได้ทันที ต้องมีกระบวนการสอบสวน ไต่สวนก่อน
ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวตนไม่กังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการถูกเรียกให้ไปชี้แจงข้อเท็จจริง เรื่องนี้มองว่าจะมีผลเสียกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะเป็นความพยายามปิดปากผม ต่อการพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศ
อีกทั้งหากมีการตัดสินก่อนที่ผลการตรวจสอบกรณีการประมูลหาผู้บริหารจัดการท่อส่งน้ำอีอีซี ซึ่งนายกรัฐมนตรีสั่งให้ตั้งกรรมการตรวจสอบจะทราบ ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่เป็นผลดี
ประเด็นที่ตนพูดเกี่ยวกับบริษัทอิสวอร์เตอร์ กับการประมูลเพื่อหาผู้บริหารโครงการท่อส่งน้ำอีอีซีนั้น เพราะมีผลประโยชน์เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกี่ยวกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งกำกับดูแลกรมธนารักษ์
ทั้งนี้ตนและนายสันติ กลายเป็นคู่ขัดแย้งแล้ว ดังนั้นนายสันติจึงไม่ต้องการเอาตนไว้ แต่เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่มีท่าทีใดๆ ออกมา
เมื่อถามว่าข้อกล่าวหาที่เชิญไปชี้แจงคล้ายกับเหตุผลที่พรรคเคยขับส.ส.กลุ่มร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย นายพิเชษฐ กล่าวว่าไม่เป็นไร หากมีหนังสือมาตนพร้อมชี้แจง
เมื่อถามว่าหากสุดท้ายมติพรรคขับให้ออกจากพรรคจะไปสังกัดกับกลุ่มร.อ.ธรรมนัสหรือไม่ นายพิเชษฐ กล่าวว่า กลุ่มของร.อ.ธรรมนัส ตอนนี้ พล.อ.ประวิตร ก็คุม
หากจะย้ายพรรค ย้ายไปอยู่กับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ไม่ดีกว่าหรอ จะได้เป็นฝ่ายค้านเต็มตัว เพราะจุดมุ่งหมายคือ ขับเคลื่อนพรรคเล็ก